Toyota Motor Sport 2009 Race 4
โตโยต้า มอเตอร์สปอร์ต เฟสติวัล 2009 สนาม 4 ฝูงรถแข่งพลัง VVT-i ยึดกองบิน 46 พิษณุโลก ผู้ชมนับหมื่นร่วมสัมผัสความแรงแน่นอัฒจรรย์ บรรยาศความมันของเกมการแข่งขันกีฬามอเตอร์สปอร์ต ด้วยพลังจากเครื่องยนต์ VVT-iเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ที่ กองบิน 46 จ.พิษณุโลก
เริ่มต้นด้วยการ ควอลิฟายด์ในวัน เสาร์ที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านไปด้วยดี ภายใต้สภาพอากาศร้อนอบอ้าว สายฝนกระหน่ำลงมาล้างพื้นผิวรันเวย์ ซึ่งได้รับการปรับเปลี่ยนให้เป็นแทรคแข่งขันชั่วคราวความยาวต่อรอบ 1.5 กม. ภายใต้ความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน พื้นผิวเรียบ และความกว้างที่ทำให้ รถแข่งสามารถใช้ความเร็วสูงสุดช่วงทางตรงได้ถึง 150 กม./ชม. นักแข่งทุกคนสามารถทำหน้าที่ควบคุมรถแข่งของตนพุ่งไปข้างหน้า ทำเวลาควอลิฟายด์หาตำแหน่งสตาร์ทได้เป็นอย่างดี ทำให้รถแข่งทุกคันอยู่ในสภาพพร้อมสำหรับการแข่งขันในวันถัดไป
อุ่น เครื่องด้วยรุ่น EXECUTIVES Club
การแข่งขันสนามนี้ได้รับเกียรติจากทีมผู้บริหารระดับสูง ลงประลองทักษะการขับขี่สัมผัสความมันของเกมการแข่งขันกีฬามอเตอร์สปอร์ต พิสูจน์สมรรถนะแบบสุดๆ ของวีออส คอมแพ็คคาร์ยอดนิยมตลอดกาล เครื่องยนต์ 1500 ซีซี VVT-i 109 แรงม้า หลังการซ้อมภายใต้การแนะนำของ นักแข่งชั้นนำในสังกัดทีม โตโยต้า อาทิ สุทธิพงษ์ สมิตชาติ – ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ – มานัต กุลปาลานนท์ – นพดล ประกอบผล – สุธีรพันธ์ โสมะบุตร และ ศิรคุปต์ เมทะนี ต่อด้วยการ ควอลิฟายด์จัดอันดับสตาร์ท และจบด้วยการขับจริง แข่งจริง แบบไร้ตัวช่วย แม้ไม่บู๊ ดุดัน อย่างนักแข่งตัวจริง แต่เป็นครั้งแรกที่ผู้ชมและทีมงานรอบสนาม ได้เห็นลีลาการขับของนักแข่งที่มีค่าตัวนอกสนามแพงลิบลิ่วทั้ง 5 ท่าน ตลอดการแข่งขัน 10 รอบโดย มร.ฮิโรอากิ อาวามูระ เป็นผู้ทำเวลาการแข่งขันดีที่สุด 0.52.543 นาที ในรอบที่ 7
ผล การแข่งขัน
อันดับ หมายเลข นักแข่ง ควอลิฟายด์
1 5 มร.ฮิโรอากิ อาวามูระ (ผู้ประสานงาน กก.ผจก) 2
2 4 นิกร ประเสริฐสม (ผช.กก.ผจกญ) 4
3 2 วิเชียร เอมประเสริฐสุข (ผช.กก.ผจกญ.อาวุโส) 3
4 1 วุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ (ผช.กก.กก.ผจกญ.อาวุโส) 1
5 3 ศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร (ผช.กก.ผจกญ.อาวุโส) 5
พิธีเปิดการแข่งขัน เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการในวันอาทิตย์ที่ 18 ต.ค. ภายใต้แสงแดดUV 100% ในเวลา 13.00 น. ให้สัญญาณเริ่มต้นการแข่งขันโดยพ่อเมืองพิษณุโลก คุณปรีชา เรืองจันทร์ พร้อมด้วย คุณวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส และ นาวาอากาศเอกทศวรรณ รัตนแก้วกาญจน์ ผู้บังคับการกองบิน 46 พิธีเปิดการแข่งขันเป็นไปอย่างเรียบง่าย รวดเร็ว เพื่อให้ทันใจผู้ชมรอบสนามที่รอชมความมันของเกมการแข่งขันที่กำลังจะเริ่ม ต้นขึ้นในชั่วไม่กี่อึดใจ โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้กล่าวเปิดการแข่งขันมีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า “ต้องขอบคุณโตโยต้า ที่ให้ความสำคัญเลือก จ.พิษณุโลก เป็นสถานที่จัดการแข่งขันอีกครั้ง หลังจากที่เคยมาจัดครั้งแรกเมื่อปี 2549 ซึ่งนอกจากจะเป็นการส่งเสริมและพัฒนากีฬามอเตอร์สปอร์ตให้ก้าวหน้าและเป็น ที่นิยมแล้ว ยังสอดคล้องกับนโยบายของจังหวัด ที่มุ่งพัฒนาให้เป็นเมืองที่มีความปลอดภัย และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชน ตลอดจนบุคคลทั่วไปที่สนใจในกีฬามอเตอร์สปอร์ต ได้มีความรู้ความเข้าใจอย่างถูกวิธีเกี่ยวกับการแข่งขันรถยนต์ที่ต้องคำนึง ถึงความปลอดภัย การมีน้ำใจเป็นนักกีฬา และเคารพกฏ กติกา ซึ่งสามารถนำไปใช้สำหรับการขับขี่บนท้องถนนในชีวิตประจำวันให้มีความปลอดภัย ยิ่งขึ้น”
เริ่ม วินาทีความมันบนผิวแทรคร้อนระอุด้วยการแข่งขัน “วีออส วันเมคเรซ เลดี้คลับ”
เจ้าหน้าที่สนามเคลียผิวแทร็คบริเวณจุดสตาร์ทอย่างเร่งด่วน พร้อมกับป้ายสัญญาณ 5 นาทีเริ่มต้นการแข่งขัน รถแข่ง วีออส วันเมคเรซ ทั้ง 9 คัน เคลื่อนตัวตามรถเซฟตี้คาร์ 1 รอบสำหรับ Warm up lap หลังจากนั้นเป็นการสตาร์ทด้วยสัญญาณไฟ โดยรถแข่งหมายเลข 33 “อัฉราพรรณ พันธ์พาณิชย์” พุ่งออกนำเป็นคันแรกจากกริดสตาร์ทในตำแหน่งโพล ตามมาด้วยหมายเลข 35 “พิมพรรณ หงษ์ปาน” และหมายเลข 38 “ทิพวรรณ ภู่ระยับ” ตำแหน่งการแข่งขันเปลี่ยนแปลงก่อนครบรอบแรกในโค้ง S ก่อนออกสู่ทางตรงเกิดการเบียดแซงแย่งตำแหน่งกัน ทำให้รถแข่งหมายเลข 29 ของ “กาญจนา ประกอบผล” จากตำแหน่งสตาร์ทอันดับ 4 หลุดขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งผู้นำ ตามมาด้วยรถแข่งหมายเลข 80 ของ “ใหม่ สุคนธวา เกิดนิมิตร” จากตำแหน่งสตาร์ทอันดับ 5 ตามมาเป็นอันดับ 2 และหมายเลข 55 “ทัตติยา ไชยเดช” ไล่ตามมาในอันดับที่ 3
เข้าสู่การแข่งขันรอบที่ 3 ผู้นำใน 2 อันดับแรกเริ่มยืดระยะนำห่าง เข้าสู่รอบที่ 4 “พิมพรรณ” เริ่มไล่ติดท้ายรถของ “ใหม่ สุคนธวา” และแซงขึ้นนำได้ในรอบถัดไป และไล่แซงขึ้นแซง “กาญจนา” ขึ้นเป็นจ่าฝูงได้ในการแข่งขันรอบที่ 6 และเริ่มยืดระยะนำห่างออกไปตั้งแต่การแข่งขันรอบที่ 8 จนกระทั่งการแข่งขันรอบที่ 13 เริ่มน็อครอบรถช้าท้ายแถว ตำแหน่งการแข่งขันไม่เปลี่ยนแปลงจนกระทั่งกรรมการตีธงตราหมากรุกหลังสิ้นสุด การแข่งขัน 20 รอบ โดยแชมป์ประจำสนาม “พิมพรรณ หงษ์ปาน” เป็นผู้ทำเวลาการแข่งขันต่อรอบดีสุด 0.48.270 ในรอบที่ 8
ผล การแข่งขัน
อันดับ หมายเลข นักแข่ง ควอลิฟายด์ คะแนนสะสม
1 35 พิมพรรณ หงษ์ปาน 2 10+0+15+20=45
2 29 กาญจนา ประกอบผล 4 12+12+4+15=43
3 80 สุคนธวา เกิดนิมิตร 5 6+0+10+12=28
4 25 ศุภักษร ไชยมงคล 6 20+20+6+10=56
5 55 ทัตติยา ฉัตรไชยเดช 7 3+10+0+8=21
บรรยากาศ คลายความร้อน กลุ่มเมฆฝนลดตัวลงต่ำ ฝูงรถแข่ง “วีออส วันเมคเรซ” สำหรับนักแข่งคลาสซี พาเหรดเข้าสู่กริดสตาร์ท เตรียมพร้อมประลองฝีมือ 20 รอบสนาม
รถแข่งทั้ง 27 คันขับเคลื่อนด้วยพลัง 109 แรงม้าของเครื่องยนต์ระบบ VVT-i สมรรถนะสูงเช่นเดียวกับที่ใช้บนถนนทั่วไป ได้รับการปรับแต่งพื้นฐานตามกติกากำหนด การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นด้วยการกระชากออกนำของรถแข่งหมายเลข 89 ของ “ศักดิ์ชัย เยี่ยมวัฒนา” ตามมาด้วยหมายเลข 72 “ปาลีรัฐ ปานบุญห้อม” และหมายเลข 26 “ธนากร บุตราวงษ์” เป็นผู้นำใน 3 อันดับแรก ผ่านโค้งสุดทางตรงตำแหน่งผุ้นำไม่เปลี่ยนแปลง แต่อันดับที่ 2 ตกเป็นของหมายเลข 26 ส่วนอันดับที่ 3 เป็นของหมายเลข 35 “เพียว หงษ์ปาน” ที่เบียดแซงขึ้นมาจากตำแหน่งสตาร์ทอันดับ 5
เข้าสู่การแข่งขันรอบที่ 6 ผู้นำ 3 อันดับแรกเริ่มนำห่าง จนกระทั่งรอบที่ 8 จ่าฝูงทิ้งระยะให้อันดับที่ 2 และ 3 ช่วงชิงตำแหน่งกัน ตำแหน่งการแข่งขันไม่เปลี่ยนแปลงจนกระทั่งจบการแข่งขัน 20 รอบ อย่างสุดเร้าใจ ด้วยความสูสีของรถแข่งและฝีมือนักแข่งชนิดที่ผู้ชมนั่งไม่ติด นับเป็นไฮไลท์ประจำวันที่ผู้ชมให้ความสนใจร่วมเชียร์มากที่สุด ผู้ทำเวลาต่อรอบดีสุด ได้แก่ รถแข่งหมายเลข 72 “ปาลีรัฐ ปานบุญห้อม” 0.47.878 แต่พลาดท่าเสียหลักตั้งแต่ออกจากโค้งในการแข่งขันรอบแรก ทำให้จบการแข่งขันในอันดับที่ 4
ผล การแข่งขัน
อันดับ หมายเลข นักแข่ง ควอลิฟายด์ คะแนนสะสม
1 89 ศักดิ์ชัย เยี่ยมวัฒนา 1 0+0+0+20=20
2 26 ธนากร บุตรตะวงศ์ 3 0+0+0+15=15
3 35 เพียว หงษ์ปาน 5 0+0+6+12=18
4 72 ปาลีรัฐ ปานบุญห้อม 2 12+15+3+10=40
5 24 พีรพงศ์ เตชะเทพประวิทย์ 6 8+6+15+8=37
ลมฝนพัดเฉื้อยฉิว กลุ่มเมฆดำทะมึนลดตัวลงต่ำ กลิ่นฝนโชยมาไกลๆ แต่ภายในสนามยังปกติ ผิวแทร็คพร้อมสำหรับการแข่งขันรายการต่อไป
นักแข่งคลาสบี นำรถแข่ง “ยาริส วันเมคเรซ” 9 คันลงสู่กริดสตาร์ท อารมณ์ของผู้ชมทั่วอัฒจรรย์ได้รับการกระตุ้นจากเสียงท่อไอเสียจากพลัง เครื่องยนต์ VVT-i ที่ได้รับการปรับจูนจนแรงม้าพุ่งขึ้นจาก 109 เป็น 123 แรงม้า เพียงพอที่จะพาตัวถังกระทัดรัดแต่แข็งแกร่งของรถสปอร์ตแฮ็ทช์แบ็ค “ยาริส” ทะยานไปข้างหน้าอย่างเร้าใจ หลัง Warm up lap กรรมการให้สัญญาณไฟเริ่มต้นการแข่งขัน รถแข่งหมายเลข 90 ของ “พิษณุ ศิริมงคลเกษม” กระชากออกนำเป็นคันแรกจากอันดับสตาร์ทตำแหน่งโพล ตามมาด้วยหมายเลข 9 “อาทิตย์ เรืองสมบูรณ์” และหมายเลข 15 “ชาริยะ นุยา” ตำแหน่งการแข่งขันไม่มีเปลี่ยนแปลง แต่เกมไล่ล่าตำแหน่งหัวแถว 3 อันดับแรกดำเนินไปอย่างเร้าใจ เสียงเครื่องยนต์ทำงานเต็มสูบก้องกังวาลตลอด 22 รอบของการแข่งขัน โดยผู้ทำเวลาต่อรอบดีสุดได้แก่ หมายเลข 90 ได้ยืนบนโพเดียมสูงสุด ด้วยเวลา 0.46.951 นาที ในการแข่งขันเพียงรอบที่ 2
ผล การแข่งขัน
อันดับ หมายเลข นักแข่ง ควอลิฟายด์ คะแนนสะสม
1 90 พิษณุ ศิริมงคลเกษม 1 8+20+0+20=48
2 9 อาทิตย์ เรืองสมบูรณ์ 2 10+8+15+15=48
3 15 ชาริยะ นุยา 3 15+0+0+12=27
4 44 สุนิจ ศรีแสนสุชาติ 4 12+12+12+10=46
5 43 จินดา ศรีแสนสุชาติ 5 20+15+10+8=53
จบ การแข่งขันด้วยความตื่นเต้น เร้าใจ และประทับใจผู้ชม ตลอด 3 ชม. ครึ่ง
ติดตามความการแข่งขันสนามสุดท้าย
ในรายการ “บางแสน ไทยแลนด์ สปีดเฟสติวัล 2009”
27-29 พ.ย.นี้ ริมหาดบางแสน