สัมผัสประสบการณ์การเดินทางแบบFirst Class กับAudi A8 L TFSI e ซีดานปลั๊กอินไฮบริดสุดหรูดีไซน์โดดเด่นสปอร์ตพรีเมียมทรงพลังสง่างามเหนือระดับพร้อมเทคโนโลยีระบบไฟฟ้าขั้นสูงเพียบพร้อมไปด้วยฟังก์ชันนวัตกรรมระดับไฮเอนด์อย่างครบครัน ภายในห้องโดยสารสร้างประสบการณ์อันไร้ที่ติในทุกการเดินทาง ที่เพิ่มความสะดวกสบายผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นสามารถควบคุมการใช้งานภายในรถได้จากด้านหลังด้วยหน้าจอส่วนตัวพร้อมจอOLED แบบสัมผัสขนาด5.7นิ้วเบาะหลังแยกซ้ายขวาออกจากกันให้ความเป็นส่วนตัวพร้อมที่พักเท้าแบบอุ่นร้อนและฟังก์ชันนวดเท้าหลังคาพาโนรามิคเลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าม่านบังแดดปรับไฟฟ้าสำหรับกระจกด้านหลังและกระจกข้างด้านหลังเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวไฟอ่านหนังสือภายในแบบMatrix LED เพื่อความสะดวกสบายในการมองเห็นภายในรถ
Electrifying experience
Audi A8 L 60 TFSI e quattro ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ให้ความเร็วสูงสุด 135 กิโลเมตร / ชั่วโมง และระยะการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 52 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) รองรับการชาร์จไฟได้สูงสุด 7.4 กิโลวัตต์ ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง สำหรับการชาร์จด้วยไฟ220 โวลต์ ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มได้ภายในเวลาไม่เกิน 4 ชั่วโมง
เมื่อรถมีการเคลื่อนที่แบบลอยตัว ตัวรถจะทำการชาร์จไฟกลับสู่แบตเตอรี่ด้วยระบบ Coasting Recuperation โดยระบบนี้จะสามารถคืนพลังงานไฟฟ้าให้กับรถได้มากถึง 25 กิโลวัตต์ นอกจากนั้นในขณะที่ผู้ขับขี่ทำการเบรก Audi A8 L 60 TFSI e quattro จะสามารถคืนพลังงานเข้าแบตเตอรี่ได้สูงสุดถึง 80 กิโลวัตต์ ด้วยระบบ Brake recuperation โดยมีหน้าจอ Virtual Cockpit และระบบ MMI หน้าจอระบบสัมผัสที่ทำให้ผู้ขับขี่สามารถดูข้อมูลการขับขี่ได้อย่างหลากหลาย เช่น มาตราวัดกำลัง ระยะทาง หรือพลังงานในปัจจุบันของระบบเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า เป็นต้น เพื่อจะได้เลือกการขับขี่ได้อย่างถูกต้อง
Audi A8 L 60 TFSI e quattro Prestige S line มาพร้อมกับสมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้น ดีไซน์การตกแต่งของเบาะนั่งภายในดูสปอร์ตมากขึ้นด้วยลาย Diamond cut ทั้งยังเพิ่มระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มาอย่างครบครันในราคาที่ถูกลงมากกว่า 1 ล้านบาท เปิดให้จองแล้วในราคา 7,199,000 บาท
สีภายนอกมีให้เลือกไม่ว่าจะเป็น Metallic Glacier White, Metallic Mythos Black, Metallic Floret Silver และ 2 สีใหม่ Metallic Firmament Blue, Metallic District Green สีภายในห้องโดยสารมีให้เลือก 2 สี คือ Cognac Brown และ Black
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสามารถเก็บพลังงานได้ถึง 17.9 กิโลวัตต์ / ชั่วโมง พร้อมระบบ Recuperation ที่สร้างพลังงานไฟฟ้ากลับคืนสู่แบตเตอรี่ขณะขับขี่ ทรงรถ Gran Turismo 4 ประตู หนึ่งเดียวในเซกเมนต์พรีเมียมที่นำเสนอระบบปลั๊กอินไฮบริดพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro
การขับขี่ของ A7 Sportback 55 TFSI e quattro ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ลูกค้าสามารถขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าได้อย่างเต็มที่ในทุกๆวัน ไม่ว่าจะอยู่ในตัวเมืองหรือการเดินทางระยะทางไกล การผสมผสานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์สันดาป มอบประสบการณ์การขับขี่ที่คล่องตัวและสปอร์ตในคันเดียว ด้วยโหมดการขับขี่ที่แตกต่างกันทั้ง 4 โหมด รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดนี้จึงใช้งานง่ายและเหมาะกับทุกการใช้งานในชีวิตประจำวัน
ระบบชาร์จที่มาพร้อมกับ Audi A7 Sportback 55 TFSI e quattro เป็นมาตรฐาน หัวชาร์จแบบ Type 2 สำหรับใช้กับเครื่องชาร์จสาธารณะ พร้อมแท่นชาร์จ Compact Charger ที่ใช้สำหรับการชาร์จไฟบ้านและอุตสาหกรรมระบบจะมีการแสดงสถานะ LED เพื่อความปลอดภัย รองรับการชาร์จไฟได้สูงสุด 7.4 กิโลวัตต์ โดยจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง นอกจากนั้น สำหรับการชาร์จด้วยไฟบ้านขนาด 220 โวลต์ ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่เปล่าให้เต็มได้ภายในเวลาไม่เกิน 4 ชั่วโมง
รูปลักษณ์ไดนามิก ลุคสปอร์ตด้วยชุดแต่งภายนอกแบบ S line Black Edition และล้อลายใหม่ Audi Sport 5-double arm style ขนาด 20 นิ้ว พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดง ไฟหน้าแบบ HD Matrix LED พร้อมเอฟเฟกต์ไฟด้านหน้า-หลัง (Light staging) พร้อมไฟ Projector LED สัญลักษณ์ S ที่ประตูหน้า เบาะนั่งคู่หน้าหนัง Valcona
Audi A7 Sportback 55 TFSI e quattro S line รุ่นใหม่มาพร้อมกับเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด พร้อมสมรรถนะที่ดียิ่งขึ้น ตกแต่งภายนอกด้วยดีไซน์กระจังหน้าใหม่ เสริมความสปอร์ตด้วยชุดแต่ง Black Edition และล้อลายใหม่ ทั้งยังปลอดภัยในการขับขี่มากขึ้นด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ มาให้ราคาที่คุ้มค่า ครอบครองได้ง่ายขึ้น เปิดให้จองแล้วในราคาเริ่มต้น 4,799,000 บาท และ A7 Sportback 55 TFSI e quattro S line Black Edition ราคา 5,099,000 บาท
ในงาน Japan Mobility Show ครั้งนี้ โตโยต้าจัดแสดงภายใต้แนวคิด “ร่วมพลิกโฉมอนาคตแห่งยานยนต์ — Find Your Future” ซึ่งเป็นการรวบรวมจิตวิญญาณแห่ง “การสืบสานและวิวัฒนาการ“
Toyota Motor Asia Pacific (TMAP) จัดตั้งขึ้นในประเทศสิงคโปร์ เป็นสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคและเป็นบริษัทในเครือของ Toyota Motor Corporation โดย TMAP เป็นผู้นำและสนับสนุนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในด้านการขายและกิจกรรมในภาพที่ 5: การประสานความร่วมมือของการขับเคลื่อนในเอเชีย รวมถึงชิ้นส่วนอะไหล่ อุปกรณ์เสริม และการบริการลูกค้า ซึ่งมีส่วนช่วยในการพัฒนาของอุตสาหกรรมยานยนต์และเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตในภูมิภาคโดยรวม
ครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้า ขอแนะนำ ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ ที่มี Google built-in พบกับแอปที่คุณชื่นชอบอย่าง Google Assistant, Google Maps และแอปอื่น ๆ อีกมากมายจาก Google Play ในรถยนต์ของคุณเพื่อประสบการณ์การขับขี่แบบมีผู้ช่วยที่ราบรื่นและปรับเปลี่ยนได้ในแบบของคุณ
ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
“วันนี้ เรามีความยินดีที่จะแนะนำ TOYOTA bZ4X รถยนต์พลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้า BEV รุ่นแรกที่จำหน่ายภายใต้แบรนด์โตโยต้า รถรุ่นนี้จะเข้าร่วมนโยบายส่งเสริมโครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นนโยบายของทางภาครัฐ เพื่อส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างแพร่หลาย”
[Toyota bZ4X… Beyond Zero]
TOYOTA bZ4X คือ รถยนต์นั่งที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้า (BEV) ประเภท SUV ขนาดกลาง หนึ่งในยนตรกรรมแห่งอนาคตใหม่ล่าสุดจากโตโยต้า ภายใต้โครงการ TOYOTA bZ
4. Blue line บริการสายด่วน Exclusive line เฉพาะลูกค้า bZ4X ให้ความช่วยเหลือลูกค้าด้านข้อมูลรถ bZ4X ได้อย่างรวดเร็ว เช่น ข้อมูลรถ วิธีการการใช้รถ ตลอดจนปัญหาด้านเทคนิคอื่นๆ
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
อุ่นใจไปตลอดการใช้งาน รถยนต์ไฟฟ้าจาก TOYOTA bZ4X ด้วยสิทธิพิเศษ