รีวิว : All New HONDA Odyssey 2014 ” ออล นิว ฮอนด้า โอดิสซีย์ “

ยกระดับ รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งครอบครัว สู่เที่ยวบินเฟิร์สคลาส ” ออล นิว ฮอนด้า โอดิสซีย์ “( All New HONDA Odyssey ) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด นำเข้ามาเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้ารถอเนกประสงค์แบบ 7 ที่นั่ง ที่ต้องการความต่างที่ทันสมัย

 

All New HONDA Odyssey

เนื่องจากความโดดเด่นของ ” ออล นิว ฮอนด้า โอดิสซีย์ “( All New HONDA Odyssey ) มีอยู่หลายจุด เช่น ความกว้างของห้องโดยสาร เบาะนั่งที่ปรับได้หลายรูปแบบ เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามาเชื่อมต่อความบันเทิง พร้อมทั้งฟังก์ชั่นที่เข้ามาช่วยในการขับขี่ให้ง่ายขึ้น แต่จะดีขนาดไหนนั้น…ออกเดินทางไปพร้อมกันครับ

 

ทดสอบแบบ “Excusive”

การทดสอบในครั้งนี้เริ่มต้นขึ้น ณ ศูนย์ฝึกอบรมฮอนด้า บางชัน โดยเป็นการทดสอบแบบ “Excusive”จริงๆ ซึ่งมีสื่อมวลชน 8 ท่าน มีเป้าหมายการเดินทางง่ายๆ สบายๆ โดยขับรถไป-กลับ กรุงเทพฯ เขาใหญ่ กับ “ออล นิว ฮอนด้า โอดิสซีย์ สองจุดสี่ อีแอล”(All New HONDA Odyssey 2.4EL) ซึ่งเป็นตัว Top Full Option ในการทดสอบครั้งนี้ แต่ก่อนจะออกเดินทางมารู้จักกับ “ออล นิว ฮอนด้า โอดิสซีย์” (All New HONDA Odyssey) กันก่อน มาดูที่คอนเซ็ปต์ของรถ “Next 7 Seater Saloon” ซึ่งเป็นการนำข้อดีหลายๆ จุดมารวมกัน เช่น ความกว้างของห้องโดยสาร ความสะดวกสบายในการขึ้น-ลง รถ ความสบายของเบาะนั่งแบบวีไอพี และความสนุกสนานความสบายในการขับขี่ ทัศนวิสัยที่ดี ความประหยัดน้ำมัน ความปลอดภัย และที่สำคัญคือ รักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นจุดยืนของ ฮอนด้ามาช้านาน หากมองจากรูปลักษณ์ภายนอกจะสะท้อนแนวคิดมาจาก Solid Streamline ยกความโดดเด่นในทุกๆ จุดของรถ ซึ่งด้านหน้าจะเห็นดีไซน์ Y Shape ที่อาศัยความหรูหราของกระจังหน้า 4 ชั้นโครเมียม พร้อมขนาบไฟหน้า LED เลนส์โปรเจกเตอร์คู่มาเป็นตัวชูโรง ส่วนด้านข้างจะเน้นความลาดเอียงของเสา A และกระจกบานหน้าที่อยู่ในองศาลู่ลม ประตูสไลด์บานใหญ่ขึ้น- ลง สะดวก พร้อมทั้งเส้นสายชายล่างประตูที่นอกจากจะทำให้ตัวรถมีมิติมากขึ้นแล้ว ยัง ลดการหมุนวนของอากาศส่งผ่านออกด้านท้ายได้เร็วขึ้น มาชมด้านท้ายนอกจากการเว้าที่ได้เส้นสายที่งดงามแล้วนั้น ยังช่วยให้หลักอากาศพลศาสตร์ไล่ลมเร็วขึ้น และต้องขอยกความงามทั้งหมดให้แผงไฟท้าย LED ที่ใช้สีแดง ขาว และดำ เข้ามาจัดวางอย่างลงตัว สะท้อนได้ทั้งความทันสมัย และความหรูหรา

 

ภายใน

ก่อนจะออกเดินทางเข้ามานั่งในรถ โอ้!!…มีปุ่มกดเยอะแยะมากมาย เดี๋ยวค่อยศึกษา มาดูภาพรวมของภายในก่อน ” ออล นิว ฮอนด้า โอดิสซีย์ ” (All New HONDA Odyssey) ใช้แนวคิดการออกแบบสไตล์ Modern Suite หรือการดีไซน์ให้เกิดความรู้สึกคล้ายกับห้องสูทของโรงแรมหรูๆ นั่นเอง อย่างแรกเลย ความกว้างขวางที่มากขึ้นกว่ารุ่นเดิม การเก็บเสียงที่ดีกว่าเดิม

 

เบาะนั่งทั้ง 3 แถวให้ความสะดวกสบายในทุกตำแหน่ง โดยเบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง และสามารถบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งได้ 2 ตำแหน่ง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง เบาะนั่งแถวที่ 2 ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ มี 2 ที่นั่งแบบเฟิร์สคลาส ซึ่งปรับได้ถึง 10 ทิศทาง โดยปรับที่นั่งแบบแยกอิสระซ้าย-ขวา ให้เดินผ่านได้แบบ Walk Through และปรับองศาของเบาะรองขาและพนักพิงหลังช่วงบน รวมทั้งยังปรับให้รองรับต้นคอ

 

เพื่อความผ่อนคลายตลอดการเดินทาง เบาะนั่งแถวที่ 3 รองรับที่นั่งได้ 3 ตำแหน่ง สามารถแยกปรับพนักพิงหลังแบบ 40:20:40 ทำให้ผู้โดยสารแต่ละตำแหน่งสามารถเลือกปรับพนักพิงหลังได้อย่างอิสระ สามารถปรับพับให้แบนราบ เพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระได้มากยิ่งขึ้น แถมด้วยม่านบังแดดกระจกของประตูสไลด์

 

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ

ส่วนระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Tri-zone พร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัสและแผงควบคุมระบบปรับอากาศสำหรับเบาะนั่งแถวที่ 2 และ 3 พร้อมสวิตซ์ควบคุมอุณหภูมิ มาดูต่อที่ผลงานชิ้นล่าสุดจากฮอนด้า กับฟังก์ชั่นการทำงานที่ตอบสนองการสั่งการได้อย่างอัจฉริยะ ผ่าน Advanced Touch Audio ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบ Advance Touch ขนาด 7 นิ้ว สามารถแสดงผลในโหมดเครื่องเสียง เชื่อมต่อโทรศัพท์ไร้สาย แสดงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI Eye FreeMode (รองรับ iPhone รุ่น 4s ขึ้นไป) รองรับช่องเชื่อมต่อ HDMI และ USB 2 ตำแหน่ง และยังรองรับการเชื่อมต่อ Honda Link Navigation Application (เฉพาะ Smart Phone บางรุ่น) และพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นที่เข้ามาควบคุมทุกระบบบนหน้าจอ

 

เครื่องยนต์

อย่าให้เสียเวลาออกไปทดลองขับกันครับ เพราะหากให้ผมเจาะลึกทุกฟังก์ชั่นต้องยืมมาแบบส่วนตัวครับ เนื่องจากรายละเอียดเยอะมากจริงๆ ” ออล นิว ฮอนด้า โอดิสซีย์ ” ( New HONDA Odyssey ) ใช้เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC i-VTEC ให้กำลังสูงสุด 175 แรงม้าที่ 6,200 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุดที่ 225 นิวตัน-เมตร (23 กก.-ม.) ที่ 4,000 รอบต่อนาที มาพร้อมเทคโนโลยี Earth Dreams ที่ได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานของเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคงความโดดเด่นด้านการประหยัดน้ำมันระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ได้พัฒนาใหม่ให้เกียร์มีน้ำหนักเบา พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์แบบ G-Design Shift ที่จะทำงานร่วมกับลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้า (Drive-By-Wire – DBW) จึงตอบสนองการทำงานแบบเรียลไทม์ ที่สำคัญมีระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) นอกจากนี้มี Idling Stop ระบบช่วยลดการใช้พลังงานขณะรถหยุดนิ่ง พร้อมสวิตซ์เปิด-ปิด รวมถึงระบบ ECON Mode เป็นระบบที่ช่วยลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลือง โดยระบบจะปรับการทำงานของเครื่องยนต์ ลิ้นปีกผีเสื้อ และระบบเกียร์ ให้ทำงานสัมพันธ์กันในขณะรถวิ่ง นอกจากนี้ระบบจะปรับการทำงานของระบบปรับอากาศและการหมุนเวียนอากาศภายในห้องโดยสารให้เหมาะสม กับอุณหภูมิภายนอกรถซึ่งการทำงานของ ECON Mode จะช่วยควบคุมเครื่องยนต์ให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

 

จากที่ได้สัมผัสถือว่าเครื่องยนต์บล็อคนี้เหมาะมากที่จะอยู่ใน “ออล นิว ฮอนด้า โอดิสซีย์” (All New HONDA Odyssey) จากที่ได้สัมผัสในเรื่องของอัตเร่งในการเดินทางดีเกินที่ผมคาด ความต่อเนื่องในช่วงเร็วต่ำ กลาง และสูงทำได้ไหลลื่นไร้รอยต่อ แถมยังมีเกียร์ CVT ใหม่ ที่ทำงานได้รวดเร็วขึ้น เพียงกดคันเร่ง เพิ่มลงไประบบประมวลผลจะจัดการอัตราทดของสายพานเกียร์ที่เหมาะสม เพื่อเร่งแซงแบบไม่ต้องออกแรงมาก แถมทำงานร่วมกับลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้าช่วยให้การสั่งจ่ายน้ำมันเหมาะสม ไม่มีน้ำมันจ่ายเกินโดยเปล่าประโยชน์ทำให้ประหยัดน้ำมันอีกทาง เรื่องทัศนวิสัยถือว่าดีมาก ที่สำคัญยังมีระบบเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Information System) ที่เข้ามาช่วยเวลาเราจะเปลี่ยนเลน โดยมีการส่งสัญญาณมาที่กระจกข้างพร้อมเสียงเตือนเพื่อให้เราทราบว่ามีรถอยู่ที่ด้านข้าง อีกอย่างที่น่าสนใจ คือ ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Honda Smart Parking Assist System) จะควบคุมพวงมาลัยอัตโนมัติ โดยเพียงแค่เดินหน้าหรือถอยหลังไปตามคำแนะนำ และตามตำแหน่งที่ระบุบนหน้าจอ ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่ทั้งการจอดรถแนวขนานและการถอยหลังเข้าจอดอย่างง่ายดาย สุดท้ายระบบกล้องส่องภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System) จะทำงานผ่านกล้องที่ติดตั้ง 4 จุดรอบคัน ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง ด้านซ้าย และด้านขวา โดยสามารถแสดงภาพแต่ละด้าน หรือภาพจำลองจากมุมสูงเพื่อให้เห็นทุกทิศทางรอบคันช่วยเพิ่มทัศนวิสัยให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนในขณะขับขี่ และขณะจอด ซึ่ง 3 เทคโนโลยีใหม่ที่เพิ่มเข้ามา ผมว่าเหมาะสามมากสำหรับรถที่มีขนาดใหญ่แบบนี้

 

หลังจากขับมาระยะ 70-80 กม. ก็ลองมาเป็นผู้โดยสารบ้าง ชอบนะครับกับรูปแบบของการปรับเบาะที่มีหลายรูปแบบ เบาะนั่งสบายทุกจุด แต่ว่าระบบซับแรงกระแทกในความรู้สึกผมน่าจะมีความนิ่มนวลมากกว่านี้ เนื่องจากว่าลงคอสะพานจะรู้สึกกระแทกมากไปสักนิด เนื่องจากรถในรูปแบบนี้วัตถุประสงค์วางไว้ในการเดินทางไกลๆ ซึ่งความนิ่มนวลในการเดินทางน่าจะเป็นหัวใจสำคัญอีกจุดที่ควรใส่ใจ แต่ว่าข้อดี คือ การเกาะถนนที่ดี แม้ความสูงของตัวถังจะมีมาก และการเข้าโค้งรูปแบบต่างๆ ก็ทำได้ดีทีเดียว

 

สุดท้ายขอบคุณ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ที่ให้เราได้ทดสอบนวัตกรรมดีๆ เช่นนี้เสมอมา พบกับ “ออล นิว ฮอนด้า โอดิสซีย์” All New HONDA Odyssey ที่มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น 2.4E (8 ที่นั่ง) ราคา 2,750,000 บาท และรุ่น 2.4EL (7 ที่นั่ง) ราคา 2,950,000 บาท ได้แล้วทุกโชว์รูมของฮอนด้าทั่วประเทศ