รีวิว : All-New HONDA HR-V ( ออล นิว ฮอนด้า เอช อาร์-วี )คลื่นลูกใหม่ของสายพันธุ์ Crossover ให้อารมณ์การขับขี่ตอบสนองแบบซีดาน เติมความอเนกประสงค์ตัวลุยแบบ SUV ใน ราคารถยนต์ใหม่ เริ่มต้น 890,000 บาท

รถยนต์ที่เป็นกระแสในงาน Motor Expo ปีนี้มีผู้เข้าชม ทดลองนั่ง ทดลองขับ และมียอดจองแบบท่วมท้มอย่าง All-New HONDA HR-V ” ออล นิว ฮอนด้า เอช อาร์ วี ” เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่พลิกสวนกระแสตลาดรถยนต์ที่มียอดขายดิ่งลงถึง 35% แต่รุ่นนี้จากค่ายฮอนด้าเปิดตัวออกมาเพียง 1 เดือน สามารถสร้างยอดจองได้มากถึง 7,000 คัน แถมการค้นหาข้อมูลรถคันนี้ผ่านระบบ Online มียอดเข้าชมสูงสุด ณ ขณะนี้ เราจึงต้องรีบนำข้อมูลการทดสอบมาแจ้งแถลงไขแก่สาธารณะชนโดยด่วน

 

Seductive Crossover รวมทุกข้อดี…ยิ่งกว่าอเนกประสงค์

All-New HONDA HR-V “ออล นิว ฮอนด้า เอช อาร์ วี” เป็นรถยนต์ที่รวมเอาข้อดีต่างๆ ของรถยนต์หลากหลายประเภทมารวมไว้ในคันเดียว นั่นคือ HR-V ซึ่งฮอนด้าเรียกแนวคิดนี้ว่า “Seductive Crossover” โดยพัฒนาบนพื้นฐานของรถสปอร์ตอเนกประสงค์ หรือ เอสยูวี (SUV) และได้เพิ่มความสปอร์ตปราดเปรียวในสไตล์รถสปอร์ตคูเป้ ผสานกับฟังก์ชั่นการใช้งานแบบอเนกประสงค์ในสไตล์รถมินิแวน เพื่อให้บังเกิดเป็น “สปอร์ตครอสโอเวอร์ระดับพรีเมียม”

 

รูปลักษณ์ภายนอก

รูปลักษณ์ภายนอกเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของค่ายนี้อยู่แล้ว ไม่ว่ารุ่นไหนๆ ก็มักจะโดนใจสาวกตัว H ได้เป็นอย่างดี แต่ความสวยของตัวรถเป็นเรื่องนานาจิตตังใครชอบแบบไหนก็ซื้อแบบนั้น ส่วน All-New HONDA HR-V“ออล นิว ฮอนด้า เอช อาร์ วี” ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “Dynamic Cross Solid” ผสานกับการออกแบบ ตามหลักอากาศพลศาสตร์ ด้วยตัวถังด้านหน้าที่มีรูปทรงปราดเปรียว ลงตัวกับมือจับเปิดประตูด้านหลังที่ได้รับการออกแบบให้กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับกระจกรถยนต์ในสไตล์สปอร์ตคูเป้ เสริมด้วยตัวถังด้านล่างที่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง ทรงพลัง กระจังหน้าได้รับการออกแบบด้วยแนวคิด Solid Wing Face เสริมด้วยโทนสีดำเพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งและมีสไตล์ ผสานความรู้สึกเหนือระดับด้วยหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) พร้อมระบบเปิด-ปิดแบบ One-Touch ไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้าย LED แบบ Tube ในรุ่น EL หรือรุ่น TOP ที่เราใช้ทดสอบในครั้งนี้

 

สิ่งที่ผมรู้สึกชอบคือ การออกแบบที่ตรงหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งในรุ่นนี้มีความสูงของตัวรถมาก เพราะวิศวกรต้องการทัศนวิสัยที่ดี จึงต้องออกแบบให้มีความเพรียวลมมากกว่าปกติ เพื่อลดแรงปะทะของลม และเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร ซึ่งในจุดนี้ผมถือว่าฮอนด้าบรรจงสร้างสรรความงดงาม ในการออกแบบผสมกับหลักอากาศพลศาสตร์ได้ดีมากๆ จริงๆ นอกจากความโดดเด่น อ่อนช้อย แข็งแกร่งที่รวมกันอยู่ใน HR-V แล้ว ทุกๆ อนูของเส้นสายยังสามารถบังคับทิศทางของอากาศให้ไหลผ่านออกไปด้านท้ายอย่างรวดเร็ว และยังมีวัสดุปิดใต้ท้องรถเพื่อลดการหมุนวนของอากาศ สามารถให้อากาศผ่านออกด้านหลังได้อย่างรวดเร็ว

 

Expansive Cockpit ความกว้าง…แบบสปอร์ต

 ในส่วนของภายในใช้พื้นฐานการออกแบบ “Exciting H Design” ที่มีในทุกรุ่นของฮอนด้า มาต่อยอดกับ แนวคิด “Expansive Cockpit” ที่สะท้อนให้เห็นถึงความกว้างขวาง โปร่งโล่งของพื้นที่เหนือแผงคอนโซล พร้อมภาพลักษณ์สไตล์สปอร์ต ผ่านการออกแบบคอนโซลกลางแบบ 2 ชั้น นอกจากการจัดวางภายในห้องโดยสาร ยังมาด้วยแนวคิด “Smart Cross Package” ที่ผสมผสานความเป็นส่วนตัวในสไตล์รถสปอร์ตคูเป้ กับฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายในสไตล์รถอเนกประสงค์ได้อย่างลงตัว จึงทำให้ภายในห้องโดยสารออกมาดูแล้วหรูหรา คุมโทนด้วยสีดำ เน้นความนุ่มนวลในทุกสัมผัส แผงคอนโซลเป็นจุดที่ผมให้คะแนนความโดดเด่นสูงสุด เนื่องจากให้ความรู้สึกเร้าอารมณ์ในการขับขี่ และยังมีช่องแอร์ 3 ช่องที่ฝั่งคนนั่ง พร้อมการดีไซน์ที่ใช้งานง่ายๆ ตรงกลางคอนโซล โดยมีฟังก์ชั่นที่ซ่อนเอาไว้มากมาย เช่น ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri Eyes Free Mode รองรับการเชื่อมต่อ HondaLink Application รองรับการเชื่อมต่อภาพและเสียงผ่าน HDMI ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง และแสดงผลอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส, ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ

 

คอนโซล

ส่วนที่คอนโซลกลางแบบ 2 ชั้น ถือว่าออกแบบได้สปอร์ตมากๆ แถมยังมีของเล่นใหม่อย่าง ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ที่ใช้งานง่ายเพียงดึงสวิตช์ที่คอนโซลกลางขึ้นเมื่อต้องการใช้เบรกมือ และระบบจะคลายเบรกโดยอัตโนมัติ เมื่อเหยียบคันเร่ง (ระบบจะคลายเบรกในกรณีที่ผู้ขับขี่คาดเข็มขัดนิรภัยเท่านั้น) และระบบ Auto Brake Hold (Automatic Brake Hold) เป็นระบบเบรกที่ช่วยป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนตัวโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้างไว้ เมื่อกดปุ่มให้ระบบทำงาน ระบบจะทำการหน่วงเบรกต่อโดยอัตโนมัติหลังจากเหยียบเบรกให้รถหยุดนิ่ง และระบบจะคลายเบรกโดยอัตโนมัติ เมื่อเหยียบคันเร่ง (ระบบจะคลายเบรกในกรณีที่ผู้ขับขี่คาดเข็มขัดนิรภัยเท่านั้น) ซึ่งระบบนี้ถูกออกแบบมา เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้ผ่อนคลายจากอาการเมื่อยล้าในช่วงเวลาที่ต้องเหยียบเบรกค้างไว้เป็นเวลานาน เช่น ในสภาพการจราจรติดขัด

 

ความโดดเด่นของรถยนต์ SUV ที่มีความสูงทำให้ระดับสายตาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม มอบทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยมและความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยตลอดการขับขี่ เป็นเรื่องธรรมดาของรถประเภทนี้อยู่แล้ว แต่ All-new HONDA HR-V ให้มามากกว่านั้นคือ การออกแบบความกว้างของเสากระจกบังลมด้านหน้าให้มีมุมที่ลาดลง ทำให้ทัศนวิสัยในมุมกว้างมีมากขึ้นด้วย พร้อมทั้งตำแหน่งเบาะที่นั่งคนขับอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุด ในการมองทัศนวิสัยรอบด้าน ที่สำคัญเบาะนั่งอเนกประสงค์ที่ปรับพับได้ 3 รูปแบบ Utility Mode : พับเบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้าน เพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลังได้มากขึ้น, Tall Mode : พับเบาะด้านหลังขึ้น เพิ่มพื้นที่เก็บของทรงสูง และ Long Mode : พับเบาะทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาวพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้ายด้วยการจัดวางและติดตั้งถังน้ำมันไว้ที่บริเวณตรงกลางของตัวรถ มีส่วนช่วยเพิ่มพื้นที่โดยเฉพาะเบาะที่นั่งของผู้โดยสารด้านหลัง ให้มีพื้นที่วางขาและพื้นที่บริเวณหัวเข่าที่กว้างขวาง สำหรับพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้าย ด้วยความจุ 565 ลิตร และที่สำคัญ HR-V เน้นความเงียบภายในห้องโดยสาร โดยการเพิ่มวัสดุดูดซับเสียงด้านในของกันชนท้าย, ดูดซับเสียง/และฉนวนที่เป็นพรมปูพื้น, ดูดซับเสียงตรงแผ่นปิดใต้พื้น, ดูดซับเสียงด้านในของกันชนหน้า และภายในยังมีการใช้ฉนวนติดตั้งตามจุดต่างๆ ภายในตัวรถ รวมถึงในส่วนของแนวหลังคาและ ฝากระโปรงท้าย เพื่อป้องกันแรงสั่นสะเทือนที่จะสะท้อนเข้าไปภายในห้องโดยสาร และสามารถช่วยลดเสียงจากถนนที่จะผ่านเข้าสู่ภายในห้องโดยสาร แต่จะขอติสักนิด คือ เรื่องการเก็บเสียงในห้องโดยสารที่ยังมีเสียงเครื่องยนต์ กับยางรถยนต์ที่สัมผัสพื้นถนน เล็ดลอดเข้ามาอยู่บ้าง

EARTH DREAMS TECHNOLOGY ใหม่ทั้งเครื่อง..เกียร์ CVT

All-New HONDA HR-V “ออล นิว ฮอนด้า เอช อาร์ วี” พกเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุด 172 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม รองรับพลังงานทางเลือก E85 ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ใหม่ มีอัตราทดเกียร์ที่อยู่ในช่วงกว้างจะช่วยทำให้การขับเคลื่อนมาพร้อมกับแรงบิดที่สูงในรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำลง ซึ่งช่วยเพิ่มความประหยัดน้ำมัน ขณะเดียวกัน อัตราทดเกียร์ที่กว้างขึ้นนี้ ยังช่วยเพิ่มกำลังในช่วง เร่งเครื่องตอนออกตัวเมื่อทำงานร่วมกับ G-Design Shift ซึ่งเป็นระบบควบคุมการทำงานของเกียร์ ลิ้นปีกผีเสื้อ และการควบคุมระบบไฮดรอลิก ทำให้สามารถตอบสนองทันทีที่กดคันเร่ง และถ่ายทอดกำลังได้อย่างต่อเนื่องในระหว่างที่กำลังเร่งเครื่องยนต์ ชุดเกียร์มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา มาพร้อมปั๊มน้ำมันไฟฟ้าประสิทธิสูงและสายพานที่ทนทาน ผนวกกับการใช้น้ำมันเกียร์ชนิดพิเศษที่พัฒนาขึ้นเพื่อเกียร์ชุดนี้โดยเฉพาะ ทำให้ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ใหม่ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน Eco Assist ที่มาพร้อมกับระบบแสดงผลการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน Eco Coaching รวมถึงปุ่ม Econ Mode ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลือง โดยจะปรับการทำงานของเครื่องยนต์และเกียร์ให้ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งปรับการทำงานของระบบปรับอากาศและการหมุนเวียนอากาศภายในห้องโดยสารให้เหมาะสมกับอุณหภูมิภายนอกรถ เพื่อช่วยควบคุมการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

 

เครื่องยนต์

สมรรถนะของเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรบล็อคนี้ผมถือเป็นว่าเครื่องยนต์ที่ลงตัวมากๆ เพราะมักจะมีคนถามว่าทำไมไม่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรแบบที่ขายญี่ปุ่น บอกได้เลยว่าการซื้อรถ SUV ของผู้บริโภคชาวไทยมักจะเป็นการเดินทางไกลๆ ไปท่องเที่ยวกันแบบครอบครัว ดังนั้นกำลังของเครื่องยนต์เป็นสิ่งสำคัญในการเดินทาง เครื่องยนต์บล็อคนี้จึงสามารถตอบสนองอัตราเร่งที่มาได้ดั่งใจ การเร่งแซง ขึ้นเขาทำได้อย่างสบายๆ การตอบสนองของเกียนร์ CVT ใหม่ ผมถือว่าฉลาดอย่างน่าสนใจความราบเรียบของการเดินทางทำได้เยี่ยม ยิ่งพอรับโหมดมาใช้งาน Paddle Shift แล้ว ต้องบอกว่าความสนุกเร้าใจบังเกิดขึ้นทันที เป็นต้นว่า จะลดเกียร์ก่อนเข้าโค้ง็สามรถทำได้ดีดั่งใจสั่ง ความต่อเนื่องของเกียร์ตอบสนองได้ฉับไว ที่สำคัญอัตราการใช้น้ำมันเชื่อเพลิงยังอยู่ราวๆ 15 กม./ลิตร ในการใช้น้ำมัน E20 แต่ถ้าเป็นน้ำมัน E85 ที่มีราคาน้ำมันถูกกว่ามากๆ จะอยู่ราวๆ 10.8 กม./ลิตร (การเดินทาง 100 กม. ใช้น้ำมัน 9.2 ลิตร คิดเป็นเงิน 210 บาท ดังนั้น 1 กม. เราใช้เงิน 2.1 บาท) ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่ประหยัดมากๆ เมื่อเปรียบเทียบในรถ SUV เหมือนๆ กัน

 

Smart & Active หนึบ..ควบคุมง่าย

ช่วงล่างของAll-New HONDA HR-V “ออล นิว ฮอนด้า เอช อาร์ วี” ต้องบอกว่าน่าทึ่งตั้งแต่ระบบแชสซีส์ที่มาจากแนวคิดในการพัฒนาสมรรถนะการขับขี่ “Smart & Active” ด้วยรูปทรงพื้นฐานที่เหมือนกับรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ ที่ผสมผสานการขับขี่ที่สนุกสนานเร้าใจ ตามแบบฉบับของฮอนด้า บวกกับมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำที่สัมพันธ์กับระดับความสูง ใช้ระบบกันสะเทือนหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม H-Shape พร้อมช็อคอัพแบบ Amplitude Reactive Dampers ที่ผสมผสานช็อคอัพ 2 ระบบ คือ การใช้ลูกสูบช็อคอัพแยกกัน 2 ตัว แบ่งเป็นตัวหลักและตัวรอง เมื่อมีแรงกระแทกเล็กน้อยจากถนนในสภาพการขับแบบปกติ ลูกสูบตัวหลักก็จะทำงานในการตอบสนองต่อการดูดซับแรงกระแทก และเมื่อต้องขับขี่บนเส้นทางที่มีแรงกระแทกหรือกระเทือนที่ถูกส่งผ่านจากสภาพถนนที่ขรุขระมากๆ ลูกสูบตัวที่ 2 จะช่วยในการดูดซับแรงกระแทก ซึ่งระบบดูดซับแรงกระแทกแบบที่หนึ่งเหมาะสำหรับการขับขี่ในความเร็วต่ำขณะที่อีกหนึ่งระบบเหมาะสำหรับ การขับขี่ด้วยความเร็วสูง

 

โครงสร้างตัวถัง

นอกจากนี้โครงสร้างตัวถังที่มีน้ำหนักเบาและมีความทนทาน โครงสร้างตัวรถใช้เหล็กที่มีความทนทานสูง ชิ้นส่วนด้านหน้าและด้านหลัง ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งโดยตระหนักถึงการตอบสนองในด้านประสิทธิภาพความทนทานและน้ำหนักที่เบา ส่วนระบบพวงมาลัยเป็นแร็คแอนด์พิเนียน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (ESP) สามารถสร้างรัศมีวงเลี้ยวเพียง 5.3 เมตร สำหรับความรู้สึกผมต่อระบบช่วงล่างอย่างแรกต้องขอชมในการปรับน้ำหนักพวกมาลัยในครั้งนี้ เพราะปกติแล้วรถยนต์จากค่ายฮอนด้าไม่ว่าจะมีสมรรถนะการยึดเกาะถนนมากมายขนาดไหน แต่การตอบสนองมาที่พวงมาลัยจะมีความรู้สึกที่เบา ทำให้ความมั่นใจในการเข้าโค้งลดน้อยลงทั้งๆ ที่รถสามารถเข้าโค้งไปด้วยความเร็วสูงได้อย่างสบาย แต่ใน HR-V การวางจุดศูนย์ถ่วงต่ำทำให้อารมณ์การขับขี่เหมือนกับรถซีดานที่ควบคุมง่าย ประกอบกับน้ำหนักพวงมาลัยที่พอดิบพอดี ทำให้การเข้าโค้งเป็นไปได้อย่างมั่นใจ สนุกสนานมากๆ แม้ตัวรถจะมีความสูงพอสมควร แต่อาการโคลงเคลงไม่มีเลยครับ อันนี้ถือว่าเป็นการพัฒนาที่น่าสนใจจากฮอนด้าเลยครับ

 

All-new HONDA HR-V “ออล นิว ฮอนด้า เอช อาร์ วี” ในราคาค่าตัวรุ่น EL (ตัว TOP ) 1,045,000 บาท สำหรับผมถือว่าเป็นการพลิกวงการ Mini SUV เมืองไทยเลยทีเดียว จากการดีไซน์ที่ดูสปอร์ตล้ำสมัย ภายในที่มีฟังก์ชั่นครบครับ เครื่องยนต์ระบบส่งกำลังที่พอดิบพอดีกับการเดินทางใกล้และไกล ที่สำคัญการทรงตัวที่ดี ควบคุมง่ายเหมือนรถซีดาน แต่จะขอติสักนิด คือ การเก็บเสียงในห้องโดยสารเท่านั้นเอง โดยรวมๆ ราคาเมื่อมาบวกลบคูณหารกับสิ่งที่ได้ก็ถือว่า…อ่ะเค

 

ราคารถยนต์ใหม่

ราคา honda hrv ฮอนด้า เอชอาร์วี S AT ราคา 890,000.  บาท
ราคา honda hrv ฮอนด้า เอชอาร์วี  E AT ราคา 975,000.  บาท
ราคา honda hrv ฮอนด้า เอชอาร์วี  EL AT ราคา 1,045,000.  บาท