รีวิว : The All-New Volvo XC90 T8 Twin Engine Plug-in Hybrid รถอเนกประสงค์ที่มีให้มากกว่า SUV ใน ราคารถยนต์ใหม่ ที่ไม่เกินตัว

The All - New Volvo XC90

The All – New Volvo XC90 รถอเนกประสงค์ SUV 7 ที่นั่ง โมเดลใหม่ล่าสุดจากดินแดนไวกิ้ง  เป็นยนตรกรรมที่มากับความล้ำสมัยแบบสุดขั้วเลยในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่มิติตัวถังที่ใหญ่โตขึ้นแต่ดูปราดเปรียว ความพิเศษที่ซ่อนอยู่ในงานดีไซน์ ซึ่ง XC90 ถือเป็นรถรุ่นแรกของค่าย Volvo ที่เผยโฉมตราสัญลักษณ์อันเป็นเครื่องหมายการค้าใหม่ของ Volvo  ด้วยการออกแบบให้ส่วนของวงแหวนลูกศรสวยสง่า เพิ่มความภูมิฐานให้กับกระจังหน้ายิ่งขึ้น พร้อมจุดเด่นสำคัญอย่างชุดไฟ DRL ที่ออกแบบด้วยรูปทรงตัว T (T-shaped Daytime-Running Lights) รวมอยู่ในโคมไฟหน้า ซึ่งรูปทรงของไฟ DRL นั้นได้แรงบันดาลใจมาจาก “ค้อนศาสตราวุธเทพเจ้า ธอร์” หรือ Thor’s Hammer

The All – New Volvo XC90

The All - New Volvo XC90

The All – New Volvo XC90

ห้องโดยสารออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากธรรมชาติแวดล้อมที่สวยสดงดงามจากประเทศต้นกำเนิดของแบรนด์ Volvo

นำเสนอความเรียบง่าย ผสมผสานด้วยความหรูหรา และวัสดุที่คัดสรรเกรดพรีเมี่ยม เช่น หนัง Nappa แท้, คิ้วไม้คัดลาย, คันเกียร์ที่ทำจากแก้วเจียระไนของ Orrefors ชื่อดังของสวีเดน ในขณะที่ฟังค์ชั่นต่างๆ สำหรับใช้งานนั้นล้ำสมัยสุดๆ ชนิดที่ว่าไม่มียนตรกรรมในเมืองไทยรุ่นไหนเทียบได้เลยทีเดียว เช่น ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ และปุ่มปรับเครื่องเสียง รวมถึงจุดเด่นอย่างหน้าจอภาพระบบสัมผัสสไตล์ Tablet ขนาด 9 นิ้ว บนคอนโซลหน้า ซึ่งสั่งการด้วยวิธีสไลด์ภาพหน้าจอซ้าย-ขวา และกดเลือกจากบนหน้าจอ และที่สำคัญ XC90 ยังคงความเป็นรถอเนกประสงค์ที่มีห้องโดยสารกว้างขวางขวางรองรับได้ถึง 3 แถว 7 ที่นั่ง ซึ่งเบาะนั่งได้ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์แบบ Comfort seat คู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมหน่วยความจำที่ช่วยให้งานได้ง่าย และนั่งสบายมากขึ้น ในขณะที่เบาะนั่งแถว 2 และ 3 สามารถปรับเลื่อนระยะเพิ่มเนื้อที่ได้ โดยเบาะนั่งแถวที่ 3 นอกจากจะออกแบบให้นั่งสบายมากที่สุดในระดับรถ SUV ซึ่งรอบรับผู้โดยสารที่ร่างกายสูง 170 ซม. ได้อย่างสบายๆ แล้ว ก็ยังสามารถปรับพับเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระท้ายรถได้เช่นกัน นอกจากนี้ XC90 ยังมากับระบบปรับอากาศอัตโนมัติกระจายความเย็น 4 ส่วน แยกอิสระ พร้อมระบบกรองอากาศอัจฉริยะ CleanZone Air Purification System หนึ่งในระบบกรองอากาศในห้องโดยสารรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากสุดด้วยการดักจับอนุภาคขนาดเล็กจิ๋วมากๆ ได้

รายละเอียดด้านวิศวกรรมขับเคลื่อนของ XC90 T8 Twin Engine 

ประกอบด้วยประสิทธิภาพที่ลงตัว เริ่มจากเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร แถวเรียง 4 สูบ Drive-E Powertrain พ่วงตัวช่วยทั้ง Turbocharger และ Supercharger มาให้ทำงานร่วมกัน พร้อมด้วยพละกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่กำลังสูง High-Voltage 270-400 V ขับเคลื่อนล้อหลัง ทำให้ XC90 T8 Twin Engine มีกำลังรวมสุดเร้าใจถึง 407 แรงม้า และมีแรงบิดสูงถึง 640 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ลูกใหม่ ที่มาพร้อม Sport Mode และ Geartronic ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ สู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Wheel-Drive

The All - New Volvo XC90

The All – New Volvo XC90

XC90 T8 Twin Engine

ใช้เทคโนโลยี Plug-In Hybrid ที่สามารถเสียบปลั๊กชาร์จจากเต้าเสียบไฟฟ้าปกติ (230V/6A to 16A fuse) ที่บ้านหรือในที่จอดรถ ด้วยสายชาร์จที่ให้มากับตัวรถ ส่วนเวลาในการชาร์จประจุไฟใหม่ขึ้นอยู่กับจำนวนแอมแปร์ ซึ่งหากเลือกกระแสไฟฟ้าสูงสุดที่ 16A จะสามารถชาร์จไฟเต็มโดยใช้เวลาเพียง 2.5 ชม. และสามารถวิ่งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียว (Pure mode) ได้ไกลถึง 40 กม. โดยในส่วนของการสตาร์ทเครื่องยนต์นั้นจะใช้ระบบ CISG (Crankshaft Integrated Starter Generator) หรือไดชาร์จ ไดสตาร์ท ซึ่งจะมี Flywheel ติดตั้งที่ปลายเพลาข้อเหวี่ยง ระหว่างเครื่องยนต์กับชุดเกียร์อัตโนมัติ เพื่อทำหน้าที่สตาร์ทเครื่องยนต์และชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มีประโยชน์หลักๆ คือ สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ในทันที และเปลี่ยนการทำงานจากมอเตอร์ไฟฟ้ามาเป็นเครื่องยนต์ได้อย่างเรียบลื่น นุ่มนวล รวมถึงการเป็นไดชาร์จทำหน้าที่ราวกับเป็นตัวเร่งการทำงานเครื่องยนต์ ซึ่งสามารถสั่งการทำงานของ Turbocharger และ Supercharger ได้ในทันทีเมื่อต้องการพละกำลัง อีกทั้งยังติดตั้งระบบเบรกอัจฉริยะที่ผสมผสานเทคโนโลยี Brake-by-Wire มาให้ ซึ่งนอกจากจะสั่งการเบรกแล้ว ยังเป็นตัวชาร์จไฟกลับไปที่แบตเตอรี่ด้วเช่นกัน

XC90 T8 Twin Engine จะมากับโหมดการขับขี่ให้เลือกสั่งการได้จากปุ่ม Drive Mode บริเวณคอนโซลเกียร์ โดยจะมีให้เลือก 6 โหมด คือ เริ่มจาก “โหมด Hybrid” จะเป็นโหมดใช้งานตั้งแต่เริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์, “โหมด Pure” จะใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก และใช้พลังงานน้อย ทำให้สมรรถนะการขับขี่จะถูกลดลง และระบบปรับอากาศจะทำงานบางส่วน และขับขี่ได้ด้วยความเร็วไม่เกิน 125 กม/ชม. (ขึ้นอยู่กับลักษณะการขับขี่ และสภาพแวดล้อม ณ ขณะนั้น เช่น การเหยียบแป้นคันเร่งของผู้ขับขี่ หากผู้ขับขี่เหยียบคันเร่งแรงเกินกว่าระดับพลังงานของแบตเตอรี่ เครื่องยนต์จะเข้ามาทำงานร่วมทันที), “โหมด Power” จเป็นโหมดที่เครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานพร้อมกันแบบคู่ขนาน เน้นสมรรถนะการขับขี่แบบสปอร์ต และตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังปรับระบบพวงมาลัย, ระบบเบรกเข้าสู่โหมด Dymanic แบบอัตโนมัติ ในขณะที่ระบบ ESC, ระบบ Start/Stop Engine จะถูกปิดการทำงาน และระบบ Active Sound Control จะช่วยเพิ่มพลังเสียงเครื่องยนต์ให้เร้าใจขึ้น พร้อมด้วยหน้าจอแสดงผล Adaptive Digital Display ที่จะปรับตัวเองเข้าสู่โหมดสปอร์ต, “โหมด AWD” สำหรับสภาพถนนที่เปียกลื่น โดยระบบขับเคลื่อนจะส่งกำลังจากเครื่องยนต์เบนซินไปยังล้อคู่หน้า และกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าไปยังล้อคู่หลังในลักษณะเดียวกับระบบขับเคลื่อนทุกล้อ (AWD), “โหมด Off – Road” จะใช้งานได้ที่ความเร็วต่ำกว่า 20 กม/ชม. พร้อมด้วยการการกระจายกำลังหน้า-หลังที่อัตรา 50/50 เพื่อรักษาสมรรถนะของรถบนพื้นผิวทางที่ไม่ดี พร้อมด้วยการเปิดใช้ระบบควบคุมการลงเนิน Hill Descent Control อัตโนมัติ, ระบบพวงมาลัยจะถูกปรับไปยังโหมด Comfort ในขณะที่เครื่องยนต์ และเกียร์จะประสานงานเพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนน, ระบบควบคุมเสถียรภาพอิเล็คโทรนิคส์ (ESC) จะเข้าสู่โหมด Traction/Sport พร้อมด้วยระบบ Start/Stop Engine จะถูกปลดการทำงาน ตลอดจนการตอบสนองของคันเร่งจะถูกปรับเพื่อจำกัดโอกาสที่จะเร่งความเร็วเกิน 40 กม/ชม. โดยเมื่อความเร็วเกิน 40 กม/ชม. โหมดนี้จะปิดการทำงานเองโดยอัตโนมัติ และจะเปลี่ยนเป็นโหมด AWD โดยจะไม่กลับมาทำงานเองอีกแม้ความเร็วลดลง สุดท้าย คือ “โหมดส่วนตัว Individual ที่ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าโหมดเฉพาะของตนเองได้ เช่น การตอบสนองของพวงมาลัย, ระบบบังคับเลี้ยว, ความตื้นลึกของเบรก ซึ่งจะมีให้เลือกใช้เมื่อมีการตั้งค่าเอาไว้เท่านั้น

นอกจากนี้ XC90 T8 Twin Engine ยังมาพร้อมกับฟังค์ชั่นเด่นๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่อีกมากมาย เช่น ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติแบบถอยหลังเข้าซอง (Park Assist Pilot-Perpendicular), ระบบ Head-Up Display ที่แสดงผลความเร็วของรถ และข้อมูลในการขับขี่บนกระจกบังลมด้านหน้าของผู้ขับขี่, ระบบ Sensus Connect ที่สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่เข้ากับเครื่องเสียงของรถผ่านสัญญาณ Bluetooth เพื่อเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ผ่านระบบ Apple CarPlay สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS เพื่อแสดงผล และใช้แอปพลิเคชั่นต่างๆ บนหน้าจอ Tablet ขนาด 9 นิ้ว บนคอนโซลกลางของรถได้ด้วยการสัมผัส สั่งการด้วยเสียง หรือด้วยปุ่มมัลติฟังค์ชั่นบนพวงมาลัย

“ตั้งสติ ก่อนสตาร์ท” ดูเหมือนนี่คือสิ่งที่ The All – New Volvo XC90 T8 Twin Engine Plug-in Hybrid กำลังบอกเราทันทีที่ขึ้นมาประจำการในตำแหน่งหลังพวงมาลัย … ใช่ครับ เพราะที่เราจะบอกก็คือรถรุ่นนี้ไม่ใช่รถที่จะสามารถขับขี่ได้เลยทันทีเมื่อโยนกุญแจให้ พูดง่ายๆ ว่า คุณต้องเรียนรู้ และเข้าใจฟังค์ชั่นการใช้งานได้ในระดับหนึ่งก่อน เพราะด้วยความล้ำสมัยที่ก้าวไปสู่อีกระดับของยนตรกรรม เช่น ปุ่ม Start เครื่องยนต์ที่วิวัฒนาการจากแค่ปุ่มกดสตาร์ทมาเป็นแบบบิดสวิทช์ซ้าย – ขวา ติดตั้งอยู่ในตำแหน่งคอนโซลเกียร์ รวมถึงมุมมองทัศนวิสัยต่างๆ จากภายในรถที่ต้องปรับตัวกันพักใหญ่ถึงจะลงตัว เนื่องจากด้วยความสูงของตัวรถ และงานดีไซน์คอนโซลที่ค่อนข้างอวบใหญ่ ทำให้ไม่เหมาะอย่างยิ่งถ้าหากคุณถนัดที่จะนั่งในตำแหน่งเบาะต่ำๆ ฉะนั้นการปรับตำแหน่งเบาะนั่งให้สูงซักนิดจะช่วยเพิ่มทัศนวิสัยเบื้องหน้าได้ดีขึ้น

ในขณะที่การถอยหลังสำหรับคนที่ถนัดการใช้กระจก 3 บานเป็นหลักอาจจะดูลำบากซักนิด แต่ก็ไม่ยากเกินไปหากจะปรับตัวใหม่ และพึ่งพาระบบความปลอดภัยมากขึ้น เช่น กล้องมองหลัง และเซ็นเซอร์ถอยหลัง ให้เข้ามาเป็นลูกมือสำคัญในการช่วยเหลือ และที่สำคัญเหนืออื่นใดหากผู้ขับขี่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย The All – New Volvo XC90 T8 Twin Engine Plug-in Hybrid ก็จะไม่เคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น แม้ตำแหน่งเกียร์จะอยู่ที่ D หรือ R โดยเท้าไม่แตะเบรก หรือต่อให้แตะคันเร่งอยู่ก็ตาม

แต่หลังจากทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมให้เข้าที่เข้าทางเรียบร้อยแล้วเราขอเชิญพบกับความสนุกจาก The All – New Volvo XC90 T8 Twin Engine Plug-in Hybrid ยนตรกรรมที่มาพร้อมกับความ “สุดติ่ง” ในเรื่องของสมรรถนะที่ไม่ธรรมดา

ตั้งแต่แรกเริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ และขับเคลื่อนด้วยโหมด Hybrid ซึ่งตัดสลับกันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพระหว่างเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่น่าประทับใจและเหมาะสมกับยุคสมัยนี้ คือ “ความประหยัด” พร้อมด้วยสมรรถนะในระดับที่ช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างสบายๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในเมือง ในชีวิตประจำวัน หรือการเดินทางไกลที่ต้องใช้ความเร็วสูง ตลอดจนการเร่งแซงก็ตาม เพราะการสั่งงานด้วยน้ำหนักเท้าขวาเบาๆ ก็สามารถสั่งการให้เครื่องยนต์ส่งถ่ายพลังงานเพื่อขับเคลื่อนได้อย่างทันใจทันทีโดยไม่มีการรีรอในทุกย่านความเร็ว ทั้งยังสามารถชาร์จไฟสำรองเก็บไว้พร้อมใช้ได้ทุกครั้งเมื่อยกคันเร่ง หรือแตะเบรก

โดยถ้าอยากเพิ่มความเร้าใจเราแนะนำให้ใช้โหมด Power ในทันทีเมื่อมีพลังงานไฟฟ้ามากพอ เพื่อสั่งให้ XC90 T8 Twin Engine Plug-in Hybrid กลายร่างเป็นจรวดทางเรียบในคราบรถอเนกประสงค์ด้วยพลังงานที่ผสมผสานกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องยนต์ที่มีทั้ง Turbocharger และ Supercharger สร้างกำลังในระดับ 407 แรงม้า และแรงบิดรวมถึง 640 นิวตันเมตร เพื่อตอบสนองการอย่างเร้าใจ โดยมีเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดรับหน้าที่ส่งกำลังได้อย่างต่อเนื่อง และลื่นไหล โดยต้นสังกัดเคลมว่าสามารถพาเรือนร่าง SUV ขนาดใหญ่รุ่นนี้ทะยานจาก 0-100 กม./ชม.ได้ในเวลาเพียง 5.6 วินาทีเท่านั้น นั่นเท่ากับว่าเพียงอึดใจเดียวคุณจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วระดับ 100 กม./ชม. ได้อย่างง่ายดาย และต่อเนื่องไปถึงระดับความเร็วสูงอย่างสบายๆ ซึ่งทาง Volvo เคลมท็อปสปีดสูงสุดเอาไว้ที่ 230 กม./ชม. แต่เราคงไปได้ไม่ถึงขนาดนั้น เพราะสภาพถนนไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่ ฉะนั้นอย่างเก่งจึงได้แค่ราวๆ 180 กม./ชม.

สิ่งหนึ่งที่ทำทำให้เรา “กล้า” เดินทางด้วยความเร็วขนาดนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พละกำลังจากเครื่องยนต์เท่านั้นที่ทำให้เรามั่นใจ แต่เป็นเพราะองค์ประกอบด้านไดนามิคทั้งหมด โดยเฉพาะใน “โหมด Power” ที่เครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าจะร่วมกันถ่ายทอดสมรรถนะการขับขี่แบบสปอร์ต โดยมีระบบพวงมาลัย, ระบบเบรกทำหน้าที่ในโหมด Dymanic ด้วยเช่นกัน ซึ่งสำหรับหลายคนมันอาจเป็นสิ่งที่เพียงพอแล้วสำหรับการขับขี่ แต่กับใครที่ยังรักในอารมณ์การขับขี่แบบสปอร์ตเต็มขั้น

การได้ช่วงล่างแบบปรับระดับความสปอร์ตอีกสักอย่างน่าจะเป็นอะไรที่เติมเต็มได้มากยิ่งขึ้น เพราะสัมผัสจากระบบช่วงล่างที่ได้รับนั้นยังเป็นพื้นฐานเดียวกัน ซึ่งมีส่วนผสมของความนุ่มนวล และความเฟิร์มในสไตลยนตรกรรมยุโรป เพราะงั้นเลยยังอาจตอบสนองสาวกยนตรกรรมยุโรปสายพันธุ์สปอร์ตได้อย่างไม่เต็มที่เท่าไหร่นัก

The All - New Volvo XC90

The All – New Volvo XC90

ส่วนในโหมดการขับขี่อื่นๆ เช่น โหมด Pure หรือ  โหมดส่วนตัว Individual และโหมด Off – Road แม้เราจะไม่ได้ลองกันอย่างเต็มเม็ด เต็มหน่วย แต่ก็เชื่อว่าประสิทธิภาพของ XC90 T8 Twin Engine Plug-in Hybrid จะทำให้แต่ละโหมดสามารถทำงานได้อย่างน่าประทับใจเช่นกัน ในขณะที่โหมด AWD นั้นเราทำการแอบนอกลู่ นอกทางไปบ้างด้วยการโดดเข้าใส่ลานกว้างที่เต็มไปด้วยพื้นกรวดทราย และดินชุ่มน้ำเล็กๆ โดยผลปรากฎว่า ประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อนั้นยังให้ความมั่นใจได้ดีเช่นกัน แม้จะมีอาการหน้าดื้อเล็กๆ ให้สัมผัส ซึ่งอาจจะเป็นเพราะน้ำหนักตัวรถ ประกอบกับจังหวะเบรก และองศาการหักเลี้ยวของพวงมาลัยที่ทำให้น้ำหนักโดยรวมถ่ายมาด้านหน้ามากเกินระดับลิมิตของยางหน้าจะรับไหว เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าวขึ้น แต่โดยรวมแล้วเมื่ออาการเกิด ระบบตัวช่วยทั้งหลายก็ยังสามารถดึงรถให้กลับมาอยู่ในการควบคุมได้อย่างไม่ยากเย็นในสภาพพื้นที่ดังที่กล่าวมา ซึ่งถ้าใช้โหมดนี้ในสภาพถนนที่เปียกลื่น และยังคงมีแทรคชั่นของยางในระดับที่มากกว่านี้ เราเชื่อว่า XC90 T8 Twin Engine Plug-in Hybrid จะตอบสนองในเรื่องของการสร้างเสถียรภาพได้อย่างรวดเร็วกว่านี้แน่นอน

ในขณะที่ส่วนอื่น ซึ่งค่อนข้างที่จะติดใจเราไม่น้อยไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนก็ตามไม่ใช่เฉพาะแบรนด์ Volvo เท่านั้น ก็คือเรื่องของระบบเบรกในสไตล์ของรถ Hybrid ที่ปรับตัวให้คุ้นชินได้ค่อนข้างยากนิดนึง เนื่องจากบุคคลิกเฉพาะตัวที่แป้นเบรกค่อนข้างสู้เท้า เลยทำให้ขาดความมั่นใจไปบ้างในการเบรกแรกๆ เนื่องจากยังกะน้ำหนักเท้าในการเบรกไม่ถูก แต่เมื่อขับขี่ไปได้สักพักก็สามารถเบรกให้มีความนุ่มนวลได้ไม่ยากเกินไป

นอกเหนือไปจากสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมแล้ว The All – New Volvo XC90 T8 ยังเรียกได้ว่าเป็น “หนึ่งในยนตรกรรมที่ปลอดภัยที่สุดในโลก” ด้วยอุปกรณ์มาตรฐานความปลอดภัยที่มากกว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบัน ตามปณิธานอันสูงสุดของ Volvo ที่ว่า “ในปี ค.ศ. 2020 จะต้องไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตในรถ Volvo รุ่นใหม่” ซึ่งโมเด XC90 T8 ได้เติมเต็ม 2  นวัตกรรมความปลอดภัยที่คิดค้น และพัฒนาขึ้นมาเป็นรายแรกของโลกลงไปใน XC90 T8 ด้วย คือ “ระบบปกป้องเมื่อเกิดการวิ่งตกถนน” (Run-Off Protection) ซึ่งจะทำงานโดยการประมวลสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ เสี้ยววินาทีนั้น ซึ่งถ้าหากรถวิ่งตกไหล่ทาง ระบบจะสั่งการให้เข็มขัดนิรภัยคู่หน้ากระชับร่างกายผู้ขับขี่ และผู้นั่งโดยสารเบาะหน้าซ้ายให้ติดกับพนักพิงโดยทันที จากนั้นโครงสร้างของเบาะรองนั่งทั้งสองข้างจะทรุดตัวลงเพื่อรองรับ และป้องกันไม่ให้กระดูกสันหลังเกิดการกระแทกกับเบาะรองนั่งอย่างรุนแรง ทั้งยังสามารถลดแรงกระแทกในแนวตั้งได้ถึงประมาณ 1 ใน 3 ของแรงทั้งหมด อีกหนึ่งระบบก็คือ “ระบบเบรกอัตโนมัติหลีกเลี่ยงการชนบริเวณทางร่วมแยก” (Auto Brake at Intersections) ซึ่งระบบจะตรวจจับข้อมูลขับขี่แล้วประมวลผลแนวโน้มที่จะเกิดการชนประสานงา เพื่อสั่งเบรกให้รถหยุดโดยอัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการชน และบรรเทาความรุนแรงจากการชนประสานงาให้น้อยลง

The All - New Volvo XC90

The All – New Volvo XC90

ส่วนระบบความปลอดภัยขั้นสูงอื่นๆ ที่ติดตั้งมาให้ในโมเดล The All – New Volvo XC90 T8 นั้นจะประกอบด้วยระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน และปกป้อง เช่น ระบบป้องกันการชนพร้อมเซนเซอร์ตรวจจับรถยนต์ คนเดินถนน ผู้ขับขี่จักรยานและสัตว์ขนาดใหญ่พร้อมฟังก์ชั่นหยุดรถอัตโนมัติ (City Safety with Auto Braking), ระบบป้องกันจากกรณีถูกชนท้ายรถ (Collision Warning with Auto Brake at stand still and mitigation support – rear), ระบบแจ้งเตือนป้ายจราจรบนหน้าปัดรถ (Road Sign Information), ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะถอยหลังออกจากที่จอด (Cross Traffic Alert), ระบบแจ้งเตือนเมื่อมียานพาหนะบริเวณจุดบอดสายตา (Blind Spot Information System), ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันเพื่อรักษาระยะห่าง พร้อมฟังก์ชั่นหยุด/ออกตัวรถโดยอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control with Queue Assist), ระบบป้องกัน และปกป้องกรณีรถพลิกคว่ำ (Rollover Prevention and Protection), ระบบช่วยในการขึ้นที่ลาดชัน (Hill Start Assist), ระบบช่วยในการลงที่ลาดชัน (Hill Descent Control), ระบบช่วยในการจอดรถอัตโนมัติ แบบถอยหลังเข้าซอง และขนานขอบทาง (Park Assist Pilot-Perpendicular & Parallel Parking), ระบบช่วยรักษาความเร็วและระยะห่างจากคันหน้าพร้อมรักษารถตำแหน่งให้อยู่ในช่องเดินรถ (Pilot Assist) โดยทั้งหมดคือตัวช่วยด้านอิเล็คทรอนิกส์ที่ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ภายใต้ The All – New Volvo XC90 T8 Twin Engine Plug-in Hybrid ยนตรกรรมที่มากับความ “สุดติ่ง” ในทุกๆ ด้านอย่างแท้จริง


ตารางราคารถยนต์ล่าสุด

AUDI | Aston Martin | BMW | Chevrolet | CITROEN |  DFSKFerrari | Honda (ฮอนด้า) |