มาเซราติประเทศไทย เดินหน้าสยายปีกรุกตลาดพรีเมี่ยมลัคชัวรี่เต็มรูปแบบ ล่าสุดลงทุน 150 ล้านบาท ผุดโชว์รูมใหญ่ย่านสุขุมวิท รับแผนขยายตัวในอนาคต  พร้อมเสริมทัพด้วยยนตรกรรมพรีเมี่ยมลัคชัวรี่อิตาเลียน สปอร์ตลัคชัวรี่เอสยูวี ช่วงปลายปี

มาเซราติประเทศไทย เดินหน้าสยายปีกรุกตลาดพรีเมี่ยมลัคชัวรี่เต็มรูปแบบ

ปิยะเทพ ศิวากาศ ผู้จัดการทั่วไป มาเซราติ ประเทศไทย ในนามบริษัทดีไซน์ มอเตอร์เวอร์ค จำกัด ภายใต้กลุ่มบริษัท มาสเตอร์กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ เอ็มจีซี-เอเชีย (MGC – ASIA)  เปิดเผยถึงแนวนโยบายและทิศทางในการดำเนินธุรกิจ”มาเซราติ”  ซึ่งเป็นยนตกรรมใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในกลุ่มฯ ว่า เพื่อเป็นการเสริมศักยภาพในการเป็นผู้นำธุรกิจสินค้าระดับพรีเมี่ยมลัคชัวรี่ เซ็กเมนต์ และรองรับการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืนในอนาคตนั้น ล่าสุด บริษัทได้ลงทุนก่อสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานเพื่อรองรับลูกค้ามาเซราติย่านใจกลางธุรกิจ ณ เอ-สแควร์ บริเวณซอยสุขุมวิท 26 โดยใช้งบประมาณ 150 ล้านบาท พร้อมเตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในงานมหกรรมยานยนต์ช่วงปลายปีนี้

Maserati Thailand

“เป้าหมายของ Maserati  ตั้งใจจะเพิ่มยอดจอง ในปี 2018 เป็น 100% ของยอดจองในปีนี้ ผลการตอบรับ นับตั้งแต่เปิดดำเนินการ – ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะ การรับรู้ในแบรนด์ของลูกค้า และปริมาณลูกค้าที่จองรถ และ เยี่ยมชมโชว์รูมที่เพิ่มมากขึ้น”

สำหรับโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการมาตรฐานสากลแห่งนี้ บริษัทได้ลงทุนไปราว 150 ล้านบาท  แนวคิดในการออกแบบโชว์รูม เน้นความหรูหรา และผสมผสานวัสดุและอุปกรณ์ตกแต่งหลากหลายรูปแบบ  เพื่อทำให้โชว์รูมให้ความรู้สึกอบอุ่น และมีสไตล์ในแบบอิตาเลียน พรั่งพร้อมด้วยอุปกรณ์ อะไหล่ และเครื่องมือที่ทันสมัยตลอดจนบุคลากรที่มีประสบการณ์และได้ผ่านการฝึกอบรมจากมาเซราติ ประเทศอิตาลี นอกเหนือจากนั้น เพื่อสร้างความมั่นใจสูงสุดให้กับลูกค้า ด้วยการมอบโปรแกรมการรับประกัน และฟรีค่าบำรุงรักษา (Warranty & Free Maintenance) ตลอดระยะเวลา3 ปีหรือ 60,000 กิโลเมตร

“พร้อมกันนี้บริษัทได้เตรียมจัดกิจกรรมให้กลุ่มลูกค้าได้สัมผัสสมรรถนะและเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์มาเซราติอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการมีรสนิยมที่โดดเด่น ซึ่งมาเซราติเป็นแบรนด์ที่มีการผสมผสานระหว่างความหรูหราและสมรรถนะในระดับซุปเปอร์คาร์ (Luxury & Performance) ได้อย่างกลมกลืน และการนำเข้ารถทุกรุ่นมาเปิดตัวในประเทศไทยครั้งนี้จะเป็นการขยายฐานลูกค้าทุกกลุ่ม ซึ่งนี่คือย่างก้าวครั้งสำคัญของแบรนด์มาเซราติในประเทศไทย โดยทั้งหมดนี้เพื่อให้สอดรับกับการปรับกลยุทธ์ในระดับโลก (Global Strategy) ของมาเซราติ อันมีเป้าหมายเพื่อให้มีความโดดเด่นเป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย รวมทั้งในประเทศไทย  มั่นใจว่าภาพรวมตลาดของรถประเภทนี้จะมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากในแต่ละแบรนด์ที่อยู่ในเซ็กเมนต์นี้ได้มีการเปิดตัวสินค้าใหม่แทบทุกแบรนด์ ซึ่งจะกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อรถใหม่เพิ่มมากขึ้น บวกกับกำลังซื้อในตลาดรถยนต์ที่เพิ่มมากขึ้น จะเป็นปัจจัยบวกสำหรับตลาดพรีเมี่ยม ลัคชัวรี่นี้”

มาเซราติเลอวานเต้ เอส (Maserati Levante S)

Maserati Thailand มาเซราติเลอวานเต้ เอส (Maserati Levante S)

ปิยะเทพ กล่าวต่อไปว่าในช่วงงานมหกรรมยานยนต์ช่วงปลายปีนี้บริษัทได้เตรียมนำ มาเซราติเลอวานเต้ เอส (Maserati Levante S) เข้ามาเสริมไลน์ผลิตภัณฑ์ โดยเลอวานเต้เอส มาพร้อมกับเครื่องยนต์ เบนซิน วี 6 ขนาด 2,979 ซีซี ที่ให้กำลังแรงม้าสูงถึง 430 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม ต่อ ชม เพียง 5.2 วินาที่ ซึ่งจะทำให้ผู้ขับได้รับความรู้สึกที่ แตกต่างจากการขับขี่รถยนต์สไตล์ SUV นอกจากเครื่องยนต์สมรรถนะสูงแล้ว รถยนต์มาเซราติยังมีเสียงของเครื่องยนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ได้รับการพัฒนาตัวถังภายนอกที่ให้ความโฉบเฉี่ยว หรูหรา สง่างาม ในมาดสปอร์ตดุดัน ตามแบบฉบับของรถ SUV อันแสดงถึงผลงานการออกแบบรถอเนกประสงค์สไตล์อิตาเลี่ยนอย่างแท้จริง อาทิ กระจังโครเมียมรมดำพร้อมตราสัญลักษณ์อันโดดเด่นของมาเซราติอย่างลงตัว, กรอบไฟหน้าดีไซน์เฉียบคม พร้อมไฟตัดหมอก, ซุ้มล้อหน้าที่เสริมช่องระบายความร้อน, ประตูแบบไร้กรอบ, ดิฟฟิวเซอร์ท้ายที่มาพร้อมกับท่อไอเสียคู่, โลโก้บนเสาหลังคาท้ายรถ ซึ่งมาพร้อมการดีไซน์ประตูด้านหลังให้มีขนาดเล็กลง, เพิ่มความปราดเปรียว และลดค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทาน (cd)ได้เป็นอย่างดีส่งผลให้ ค่า cd มีเพียง 0.31 ซึ่งถือว่าดีที่สุดในรถยนต์ประเภท SUV ซึ่งรูปลักษณ์ ทั้งหมดนี้สะท้อน ความเป็น “บุคลิกยนตรกรรมรถอเนกประสงค์แบบอิตาเลียนขนานแท้ ” อย่างประณีตบรรจง 

Maserati Thailand มาเซราติเลอวานเต้ เอส (Maserati Levante S)

Maserati Thailand มาเซราติเลอวานเต้ เอส (Maserati Levante S)

9 พันธกิจที่มาเซราติ ไทยแลนด์ ให้คำมั่นต่อลูกค้ามาเซราติ

  • สร้างความเชื่อมั่นด้วย ระยะเวลารับประกัน 3 ปี และ ฟรี ค่าบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร
  • โชว์รูมตามมาตรฐานมาเซราติ เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และรสนิยมของลูกค้าอย่างแท้จริง
  • ศูนย์บริการตามมาตรฐานมาเซราติ ที่ทันสมัยอีกแห่งหนึ่งในภูมิภาค
  • อุปกรณ์ศูนย์บริการ และเครื่องมือพิเศษที่ทันสมัยสำหรับรองรับรถมาเซราติทุกรุ่น
  • ทีมงาน บุคลากรมืออาชีพทั้งในส่วนฝ่ายขายและฝ่ายบริการหลังการขาย
  • อบรมบุคลากรด้านการขายและบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง
  • บริการด้วยอะไหล่แท้อย่างครบครันจาก มาเซราติ ประเทศอิตาลี
  • บริการให้คำแนะนำและการบริการซ่อม ที่เป็นไปตามมาตรฐานมาเซราติ
  • เสริมสร้างความมั่นใจและความพึงพอใจอย่างสูงสุดแก่ลูกค้ามาเซราติ

ทั้งนี้ มาเซราติเป็นหนึ่งในแบรนด์ภายใต้กลุ่มเอฟซีเอ FCA Group – Fiat Chrysler Automobiles) ซึ่งเป็นกลุ่มยานยนต์ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก และเป็นผู้ผลิตรถยนต์หลากหลายแบรนด์ อาทิ มาเซราติ,อัลฟา โรมิโอ, เฟียด, แลนเซีย, ไครสเลอร์, จี๊บ, ดอดจ์

ท่านสามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมต่างๆของทาง มาเซราติ ประเทศไทยเพิ่มเติมได้ที่
http://thailand.maserati.com หรือเฟสบุ๊ค Maserati Thailand (@maserati.thailand)
และ อินสตาแกรม Maserati Thailand ได้แล้ววันนี้

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศผลการแข่งขันในเวทีมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก “ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2017” เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กับผลงานยอดเยี่ยมของรถแข่ง ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์-จีที จากทีม เคฮิน เรียล เรซซิ่ง หมายเลข 17

ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์-จีที คว้าอันดับ 3 รายการ ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2017

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศผลการแข่งขันในเวทีมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก “ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2017” เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กับผลงานยอดเยี่ยมของรถแข่ง ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์-จีที จากทีม เคฮิน เรียล เรซซิ่ง หมายเลข 17  ขับโดย โคอุได ซึคาโคชิ และทาคาชิ โคกูเระ ที่ผงาดคว้าอันดับ 3 ได้ขึ้นโพเดียมฉลองชัยอย่างยิ่งใหญ่

Honda Racing Result Super GT

Honda Racing Result Super GT

ขณะเดียวกัน ผลการแข่งขันซัพพอร์ต เรซ รายการ ฮอนด้า เรซซิ่ง 2017 ซึ่งจัดขึ้นทั้งหมด 3 เรซ 4 รุ่น ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นักขับที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม คว้าชัยชนะมาครองได้ทั้ง 3 เรซ ได้แก่ รุ่น ฮอนด้า โปร คาร์ จักรพันธ์ ต๊ะวี รถหมายเลข 33, รุ่น ฮอนด้า แจ๊ซ ซูเปอร์ คัพ ภัทรพล วงษ์ไพร รถหมายเลข 39, และรุ่น ฮอนด้า บริโอ้ คัพ ฐนโรจน์ ธนาสิทธิ์นิธิเกตุ รถหมายเลข 18

Honda Racing Result Super GT

การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบเบอร์หนึ่งของญี่ปุ่นรายการ ซูเปอร์ จีที 2017 มีคิวดวลความเร็วสนามที่ 7 ของฤดูกาลในเมืองไทย ระหว่างวันที่ 6-8 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ภายใต้รายการ “ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2017” ซึ่งนับเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันที่ไทยมีโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการนี้

Honda Racing Result Super GT

ส่วนไฮไลต์สำคัญคือการแข่งขัน ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2017 ซึ่งมีรถแข่ง ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์-จีที ลงชิงชัยในรุ่น จีที 500 ถึง 5 คัน ได้แก่

  • หมายเลข 8 จากทีม ออโตแบ็ค เรซซิ่ง ทีม อากูริ ขับโดย โทโมกิ โนจิริ และทาคาชิ โคบายาชิ
  • หมายเลข 16 จากทีม มูเก็น ขับโดย ฮิเดกิ มูโตะ และไดสุเกะ นาคาจิม่า
  • หมายเลข 17 จากทีม เคฮิน เรียล เรซซิ่ง ขับโดย โคอุได ซึคาโคชิ และทาคาชิ โคกูเระ
  • หมายเลข 64 จากทีม เอปสัน นากาจิม่า เรซซิ่ง ขับโดย แบร์ทรองด์ บาเยตต์ และโคสุเกะ มัตสึอุระ
  • หมายเลข 100 จากทีม คูนิมิตซึ ขับโดย นาโอกิ ยามาโมโตะ และทาคูยะ ไอซาวะ

โดยทีมที่ใช้รถแข่ง ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์-จีที ที่ทำผลงานในการแข่งขันได้อย่างยอดเยี่ยม ได้แก่ โคอุได ซึคาโคชิ และทาคาชิ โคกูเระ ช่วยกันพารถแข่ง เคฮิน เอ็นเอสเอ็กซ์-จีที หมายเลข 17 คว้าอันดับ 3 ด้วยเวลารวม 1 ชั่วโมง 43 นาที 18.794 วินาที ตามหลังแชมป์ 30.120 วินาที เท่านั้น

ตามด้วย รถแข่งหมายเลข 100 จากทีม คูนิมิตซึ ขับโดย นาโอกิ ยามาโมโตะ และทาคูยะ ไอซาวะ เข้าเส้นชัยในอันดับ 7 ด้วยเวลารวม 1 ชั่วโมง 44 นาที 3.386 วินาที เฉือนอันดับ 8 ซึ่งเป็นรถแข่ง ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์ จากทีม เอปสัน นากาจิม่า เรซซิ่ง หมายเลข 64 เพียง 12.580 วินาที ส่วนรถแข่งฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์-จีที หมายเลข 8 จบการแข่งขันในอันดับ 11 และหมายเลข 16 จบการแข่งขันในอันดับ 13

Honda Racing Result Super GT

Honda Racing Result Super GT

Honda Racing Result Super GT

ขณะเดียวกัน ฮอนด้า เรซซิ่ง ก็ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่แฟนๆ ความเร็วให้ความสนใจอย่างมาก โดยแข่งขันกันถึง 3 เรซ ที่มีระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร ใน 4 รุ่น ได้แก่ ฮอนด้า โปร โมดิฟาย, ฮอนด้า โปร คาร์, ฮอนด้า แจ๊ซ ซูเปอร์ คัพ, ฮอนด้า บริโอ้ คัพ และขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้นทุกๆ เรซ

ฮอนด้า เรซซิ่ง ออกสตาร์ทการแข่งขันเรซแรกในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางสายฝนที่เทลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การแข่งขันเต็มไปด้วยความเข้มข้น โดยแชมป์ในรุ่นใหญ่อย่าง โปร โมดิฟาย เป็นของ อานนท์ รอดประเสริฐ ที่เข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 15 นาที 33.834 วินาที ตามด้วย เศรษฐศิษฐ์ บุณยเกียรติ เข้าป้ายในอันดับ 2 ตามหลังแชมป์ 4.687 วินาที ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ ภาสฤทธิ์ พรหมสมบัติ ตามหลังแชมป์ 5.107 วินาที

Honda Racing Result Super GT

ขยับเข้าสู่การแข่งขันเรซที่ 2 ซึ่งดวลความเร็วในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ซึ่งในเรซนี้แชมป์ของรุ่น โปร โมดิฟาย ตกเป็นของ ภาสฤทธิ์ พรหมสมบัติ ที่เข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 15 นาที 26.019 วินาที กลับมาเฉือนเอาชนะ อานนท์ รอดประเสริฐ แชมป์เรซแรก ด้วยเวลาเพียง 1.868 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ เศรษฐศิษฐ์ บุณยเกียรติ  ตามหลังแชมป์ 2.590 วินาที

เรซสุดท้ายของ ฮอนด้า เรซซิ่ง ออกสตาร์ทในช่วงเช้าตรู่ของวันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่าแชมป์ในรุ่นใหญ่อย่าง โปร โมดิฟาย ตกเป็นของ อานนท์ รอดประเสริฐ ที่ควบรถแข่งเข้าป้ายเป็นคันแรก หลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตลอด 7 รอบการแข่งขัน ด้วยเวลา 14 นาที 24.488 วินาที โดยมี ภาสฤทธิ์ พรหมสมบัติ ตามเข้าป้ายในอันดับ 2 ตามหลังแชมป์ 4.699 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ เศรษฐศิษฐ์ บุณยเกียรติ ตามหลังแชมป์ 17.398 วินาที

Honda Racing Result Super GT

สำหรับการแข่งขันในรุ่นอื่นๆ มีนักขับที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม นำเข้าป้ายแบบม้วนเดียวจบ คว้าชัยชนะมาครองได้ทั้ง 3 เรซ ได้แก่ รุ่น ฮอนด้า โปร คาร์ จักรพันธ์ ต๊ะวี รถหมายเลข 33, รุ่น ฮอนด้า แจ๊ซ ซูเปอร์ คัพ ภัทรพล วงษ์ไพร รถหมายเลข 39 และรุ่น ฮอนด้า บริโอ้ คัพ ฐนโรจน์ ธนาสิทธิ์นิธิเกตุ รถหมายเลข 18

Honda Racing Result Super GT

นอกจากนี้ ภายในงาน ฮอนด้ายังได้จัดกิจกรรมพิเศษ Honda Civic Turbo Track Experience ซึ่งเป็นการรวบรวมผู้ใช้ ฮอนด้า ซีวิค เทอร์โบ ที่ชื่นชอบรถสไตล์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว ที่มีสมรรถนะการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ โดยมีผู้ให้ความสนใจกว่า 30 คัน จัดขบวนมารวมตัวกันที่บุรีรัมย์ นับเป็นโอกาสที่ผู้ที่ชื่นชอบรถฮอนด้าได้เข้ามามีส่วนร่วมในงานแข่งรถระดับโลกอย่างรายการซูเปอร์ จีที  โดยซีวิคทั้ง 30 คันนี้ได้วิ่งโชว์ในสนาม เพื่อเปิดโอกาสให้แฟนกีฬามอเตอร์สปอร์ตสัมผัสรถที่แต่งในสไตล์สปอร์ตได้อย่างใกล้ชิด และที่บริเวณลานกิจกรรมด้านนอกยังมีบูทฮอนด้าที่มีโซนกิจกรรมอีกมากมาย

Honda Civic Turbo Track Experience

Honda Civic Turbo Track Experience

ในงานยังมีกิจกรรมอีกมากมายที่ให้แฟนๆ กีฬามอเตอร์สปอร์ตได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม Pit Walk ที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมลงไปเดินในบริเวณที่เก็บรถของทีมแข่งข้างสนาม (Paddock) พร้อมได้ถ่ายรูปใกล้ชิดกับนักแข่ง และรับของที่ระลึกจากเรซควีนของแต่ละทีม รวมถึงกิจกรรม Grid Walk ซึ่งเป็นการเดินชมรถซูเปอร์ จีที และการทำงานของทีมวิศวกรในการเตรียมความพร้อมรถแข่งทุกคันที่จุดสตาร์ทในสนามแข่ง นับเป็นกิจกรรมที่มีแฟนกีฬามอเตอร์สปอร์ตให้ความสนใจเข้าร่วมอย่างคับคั่ง พร้อมกระทบไหล่บรรดาสาวสวย Racing Queens อย่างใกล้ชิดอีกด้วย

Honda Booth

Honda Booth

สรุปผลการแข่งขัน ฮอนด้า เรซซิ่ง 2017 (ซัพพอร์ต เรซ “ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2017”)

เรซ 1อันดับ 1อันดับ 2อันดับ 3
ฮอนด้า โปร โมดิฟาย

อานนท์ รอดประเสริฐ

15 นาที 33.834 วินาที

เศรษฐศิษฐ์ บุณยเกียรติ

+4.687 วินาที

ภาสฤทธิ์ พรหมสมบัติ

+5.107 วินาที

ฮอนด้า โปร คาร์จักรพันธ์ ต๊ะวีเดชาพร พฤกษ์กรวุฒิชยะพล โยธา
ฮอนด้า แจ๊ซ ซูเปอร์ คัพภัทรพล วงษ์ไพรจิระภัทร สุจิตภารการพิทยาพูลสมบัติ ดำเนินชวนิจ
ฮอนด้า บริโอ้ คัพฐนโรจน์ ธนาสิทธิ์นิธิเกตุพฤกษ์ธกานต์ สุวัฒนกรดนุวัฒน์ วรกิตติชัย

 

เรซ 2อันดับ 1อันดับ 2อันดับ 3
ฮอนด้า โปร โมดิฟาย

ภาสฤทธิ์ พรหมสมบัติ

15 นาที 26.019 วินาที

อานนท์ รอดประเสริฐ +1.868 วินาที

เศรษฐศิษฐ์ บุณยเกียรติ

+2.590 วินาที

ฮอนด้า โปร คาร์จักรพันธ์ ต๊ะวีเดชาพร พฤกษ์กรวุฒิสิทธิรณ พรหมสมบัติ
ฮอนด้า แจ๊ซ ซูเปอร์ คัพภัทรพล วงษ์ไพรจิระภัทร สุจิตภารการพิทยาอัทธนีย์ ตั้งตรงเวชกิจ
ฮอนด้า บริโอ้ คัพฐนโรจน์ ธนาสิทธิ์นิธิเกตุพฤกษ์ธกานต์ สุวัฒนกรพงศ์พล นารายพิทักษ์

 

เรซ 3อันดับ 1อันดับ 2อันดับ 3
ฮอนด้า โปร โมดิฟาย

อานนท์ รอดประเสริฐ

14 นาที 24.488 วินาที

ภาสฤทธิ์ พรหมสมบัติ

+4.699 วินาที

เศรษฐศิษฐ์ บุณยเกียรติ

+17.398 วินาที

ฮอนด้า โปร คาร์จักรพันธ์ ต๊ะวีณัฐพล แก้วกาญจนเศรษฐ์สิทธิรณ พรหมสมบัติ
ฮอนด้า แจ๊ซ ซูเปอร์ คัพภัทรพล วงษ์ไพรจิระภัทร สุจิตภารการพิทยาอัทธนีย์ ตั้งตรงเวชกิจ
ฮอนด้า บริโอ้ คัพฐนโรจน์ ธนาสิทธิ์นิธิเกตุพงศ์พล นารายพิทักษ์พฤกษ์ธกานต์ สุวัฒนกร

จากกิจกรรม “ร่วมสนุกชิงรางวัล แค่คอมเม้นอะไรก็ได้ ถ้าไม่มียอด Like เลยชนะ จัดไป”  ที่ได้สิ้นสุดไปแล้วในเวลาเที่ยงคืนวันที่ 18 สิงหาคม 2560 โดยพิจารณาจารณาจากคอมเม้นที่ไม่ยอด like  ซี่งผลจากการตัดสิน ณ เวลา  0:00 น. (เวลาจากจอคอมพิวเตอร์ของแอดมินนะจ๊ะ)

รายชื่อผู้รับรางวัล

  • รางวัลน้ำมันเครื่อง Ptt Performa super synthetic OW-30 4Lite จำนวน 1 รางวัล คือ   คุณ “Marin Tohdukong” พิจารณาจากจำนวนไลค์ที่น้อยที่สุด 7 Like
  • รางวัลหมวก BR-V  1 รางวัล คือ คุณ “Apple Kookkook”  พิจารณาจากจำนวนไลค์สูงที่สุด 19 Like

รายละเอียดเพิ่มเติม

การพิจารณารางวัลให้แก่ผู้ร่วมกิจกรรมจะอ้างอิงตามข้อมูลที่ทางแอดมินได้ทำการบันทึกเป็นเกณฑ์ในการพิจารณา และผู้ที่ได้รับรางวัลทางแอดมินจะติดต่อไปทาง Inbox เพื่อแจ้งชื่อและที่อยู่ในการจัดส่งของรางวัล

Pretty Sexy Car Wash ในงาน Bangkok international auto salon 2017 งานจำหน่ายรถยนต์ตกแต่งพิเศษ, อุปกรณ์โมดิฟาย ยิ่งใหญ่สุดในอาเซียน ท่ามกลางบรรยากาศแห่งเทศกาลยานยนต์ ลุ้นรางวัลรวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท พบกับ Pretty สาวจากญี่ปุ่นปะทะ นิกกี้ พริตตี้เงินล้าน

กิจกรรม Pretty Sexy Car Wash

ซึ่งไฮไลท์กิจกรรม Pretty Sexy Car Wash จะทำให้ทุกคนได้สัมผัสดีกรีความร้อนแรงของ สาวๆทั้งจากประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย งานนี้สาวข้างบ้านสุดเซ็กซี่ FHM GND แต่ละคนต่างโชว์ลีลาการล้างรถแบบเซ็กซี่สุดๆ ด้าน 2 สาว “เอคลาส เกิร์ล เจแปน” ทั้ง “ซึคายะ อาราอิ” และ “อายะ ฮะยาเสะ” ที่บินตรงจากประเทศญี่ปุ่น มางานนี้โดยเฉพาะก็มีดีกรีความน่ารักเซ็กซี่เบาๆ ไม่แพ้ “เอคลาส เกิร์ล ไทยแลนด์” อย่าง“ปาล์ม-รัตนาภรณ์ อย่างสวย” และ “โอ๋ลี่-อมิตา วิทยาขจรเดช” บอกเลยว่างานนี้ไม่มีใครแพ้ใคร

ภาพสาวๆพริ้ตตี้ Sexy Car Wash ในงาน Bangkok international auto salon 2017

Bangkok international auto salon 2017

ใกล้ชิดและร่วมเป็นหนึ่งในที่สุดแห่ง “เซ็กซี่คาร์วอช”  ได้ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ออโต ซาลอน 2017” วันนี้- วันที่ 9   กรกฎาคมนี้เท่านั้น!!!  ณ อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

จัดเต็มงานจำหน่ายรถยนต์ตกแต่งพิเศษ และอุปกรณ์โมดิฟายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยและอาเซียน  “ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ออโต ซาลอน 2017 ” ครั้งที่ 5  ( The 5th BANGKOK INTERNATIONAL AUTO SALON 2017 )  โดย “ บริษัท คอร์โนแอนด์แนช จำกัด ” ในเครือ “ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ”

 The 5th BANGKOK INTERNATIONAL AUTO SALON 2017

“ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ออโต ซาลอน 2017 ” ครั้งที่ 5  ( The 5th BANGKOK INTERNATIONAL AUTO SALON 2017 )  โดย “บริษัท คอร์โนแอนด์แนช จำกัด” ในเครือ “บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน)” ผนึกกำลังค่ายรถยนต์และค่ายอุปกรณ์โมดิฟายชุดแต่งชั้นนำระดับโลก นำความยิ่งใหญ่กลับมาอีกครั้งกับบรรยากาศแห่งเทศกาลยานยนต์ ไฮไลท์รถแต่งพิเศษ อิมพอร์ตจากเอเซีย ครบถ้วน “คัสตอมคาร์” จากงาน “โตเกียวออโตซาลอน”

เสริมทัพด้วยรถแต่งจากสำนักแต่งชั้นนำของอาเซียน  พบค่ายรถยนต์ชื่อดังและสินค้ายานยนต์ราคาพิเศษตลอดทั้งงาน และความบันเทิงสุดเร้าใจจากต่างประเทศ ตอบโจทย์ทุกความคุ้มโปรโมชั่นพิเศษแบบ “มิดเยียร์เซลล์” พร้อมนำนวัตกรรมออนไลน์เอ็กซ์ซิบิชั่นเพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในโลกออนไลน์  ระหว่างวันที่ 5-9 กรกฎาคม 2560 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี

แถลงความพร้อมการจัดงานอย่างเป็นทางการ  

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน 2560 ณ ห้องจูปิเตอร์ 12-13 อิมแพ็ค เอ็กซ์ซิบิชั่นเซ็นเตอร์ เมืองทองธานี    นายวิลักษณ์  โหลทอง ประธานบริหาร บริษัท คอร์โน แอนด์ แนช จำกัด ในฐานะประธานการจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ออโตซาลอน และ นายรณฤทธิ์ ซื่อวาจา กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอร์โน แอนด์ แนช จำกัด รองประธานจัดงาน พร้อมด้วย มิสเตอร์ มาซาฮารุ ซาคาอิ” (Mr.Masahanu Sakai) Director of Tokyo Auto Salon ผู้อำนวยการจัดงาน โตเกียว ออโต ซาลอน ประเทศญี่ปุ่น ได้แถลงความพร้อมการจัดงานอย่างเป็นทางการขึ้น

Auto Salon 2017

Auto Salon 2017

นายวิลักษณ์  โหลทอง ประธานบริหาร บริษัท คอร์โน แอนด์ แนช จำกัด ในฐานะประธานการจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ออโตซาลอน

นายวิลักษณ์ โหลทอง ประธานการจัดงานและประธานบริหาร บริษัท คอร์โน แอนด์ แนช จำกัด

กล่าวว่า “การจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล ออโตซาลอน มีการเติบโตและเข้มแข็งขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอดทุกปี   จนกลายเป็นเทศกาลรถยนต์ที่ทุกคนรอคอย ด้วยความชัดเจนในรูปแบบการจัดงาน ที่เป็นการแสดงรถยนต์แต่งพิเศษแบบ “คัสตอมคาร์” จากแม่แบบการจัดงาน “โตเกียวออ โตซาลอน งานแสดงรถแต่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย”ปีนี้ได้รับการสนับสนุนด้วยดีจากผู้ประกอบการทั้งจากค่ายรถยนต์, ค่ายรถมอเตอร์ไซค์ ชั้นนำ ตอบรับเข้าร่วมงานอาทิ อีซูซุ, ฮอนด้า, มาสด้า, มินิ, นิสสัน, ซูซูกิ, ซูบารุ, โตโยต้า, บีเอ็มดับเบิลยู, ยามาฮ่า  ฯลฯ  และค่ายผู้ผลิตอุปกรณ์ตกแต่งและเครื่องเสียงคุณภาพมากมาย  อาทิ  Oak Club, Liberty Walk, PP Superwheels (Thailand) Group.,Ltd, เครื่องเสียง Pioneer ฯลฯ ซึ่งต่างเตรียมแคมเปญส่วนลดให้ผู้บริโภคได้เลือกสรรเสมือนเทศกาล “ออโต้ มิดเยียเซลล์” อบอวลด้วยมนต์ขลังแห่ง “คัสตอมคาร์” ตัวท้อป ของสำนักชั้นนำจากงานโตเกียวออโตซาลอน จำนวน 6 คัน และจากกลุ่มประเทศอาเซียน อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ และ ลาว เป็นต้น  ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีเนื่องจากจะส่งผลให้เกิดการค้าในกลุ่มธุรกิจยานยนต์เพิ่มขึ้นในกลุ่มประเทศอาเซียนตามมาอีกด้วย  เป้าหมายของการจัดงานในปีนี้คาดว่าจะมียอดผู้ชมงานอยู่ที่ 700,000 คน คิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากปี 2016 และด้วยภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่แม้จะเติบโตช้าแต่มีความต่อเนื่อง เชื่อว่าจะส่งผลให้มีการซื้อขายเกิดขึ้นภายในงานนี้อย่างแน่นอน”

 

Auto Salon 2017

มิสเตอร์ มาซาฮารุ ซาคาอิ” (Mr.Masahanu Sakai) Director of Tokyo Auto Salon

มิสเตอร์ มาซาฮารุ ซาคาอิ” (Mr.Masahanu Sakai) Director of Tokyo Auto Salon ผู้อำนวยการจัดงาน โตเกียว ออโต ซาลอน ประเทศญี่ปุ่น 

กล่าวว่า “ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ปีนี้ยังคงได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี การจัดงานครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้ลิขสิทธิ์ของงานโตเกียว ออโต ซาลอน ซึ่งเป็นงานจัดแสดงรถแต่ง และอุปกรณ์โมดิฟายที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นได้รับการยอมรับในระดับโลก และประเทศไทยยังเป็นประเทศเดียวในแถบภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับความไว้วางใจในการจัดงาน

ความสำเร็จในการจัดงานที่ผ่านมา ไม่เพียงแค่ประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังทำให้วงการโมดิฟายรถยนต์กว้างขวางขึ้นในระดับเอเซียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย ผมเชื่อมั่นว่างานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล ออโต้ซาลอน จะสามารถพัฒนาให้ตัวงานดียิ่งขึ้นและจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆ ไป และพวกเราเองจะขอมีส่วนในการช่วยเหลือและพัฒนาตัวงานต่อไป”

 

 

 

 

Auto Salon 2017

นายรณฤทธิ์  ซื่อวาจา รองประธานจัดงาน และกรรมการผู้จัดการ บริษัท คอร์โน แอนด์ แนช จำกัด

นายรณฤทธิ์  ซื่อวาจา รองประธานจัดงาน และกรรมการผู้จัดการ บริษัท คอร์โน แอนด์ แนช จำกัด

กล่าวว่า “ปีนี้กิจกรรมภายในงานล้วนตอบรับไลฟ์สไตล์, ความต้องการของผู้เข้าร่วมงานทั้งกลุ่มครอบครัว กลุ่มคนรุ่นใหม่ เอาใจคนรักรถยนต์ได้เลือกสรรอย่างเต็มที่ โดยแบ่งพื้นที่เป็นโซนต่างๆ  สำหรับกิจกรรมส่งเสริมการขายที่จะกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดการตัดสินซื้อสินค้าภายในงาน จะมีทั้งแคมเปญ “ซื้อ 100 ลุ้นรถ”  ซื้อบัตรเข้าชมงาน BANGKOK INTERNATIONAL AUTO SALON 2017 ลุ้นชิงรถ TOYOTA TRD AUTO SALON EDITION จำนวน 1 รางวัล, แคมเปญ “จองรถ ลุ้นรางวัล” โดยผู้ที่จองรถภายในงานจะได้ลุ้นตั๋วเครื่องบินไป-กลับประเทศญี่ปุ่น พร้อมที่พักและบัตรเข้าชมงาน TOKYO AUTO SALON จำนวน 3 รางวัล และ แคมเปญ “ลุ้นรับของรางวัลมากมาย” เมื่อซื้อสินค้าในงานครบ 1,000 บาท แล้วนำใบเสร็จมาลุ้นรับบัตรกำนัลเงินสดและของรางวัล และเพื่อเป็นการตอบไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบันมากขึ้น ในปีนี้เราได้นำนวัตกรรมเทคโลยีด้านระบบดิจิตอลเอ็กซิบิชั่นเข้ามาเป็นครั้งแรก ทั้งดิจิตอลออเดียนซ์, ดิจิตอลคอมเมิร์ซ, ดิจิตอลไลฟ์รูม, ดิจิตอลเอ็กซิบิชั่น ทัวร์  ซึ่งจะมีตั้งแต่การเข้างานด้วยการลงทะเบียนในระบบออนไลน์, การช้อปปิ้งด้วยระบบดิจิตอลคอมเมิร์ช ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคในต่างจังหวัดสามารถช้อปปิ้งสินค้าภายในงานครั้งนี้ได้  เป็นต้น

 

กิจกรรมความบันเทิง

ด้านกิจกรรมความบันเทิงมีทั้งประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย ทั้งการแสดงจาก “เอโดะ วันเดอร์แลนด์” จากประเทศญี่ปุ่น, การแสดงจากสาวสวย “เอ คลาส เกิร์ล” ( A Class Girl ) จาก “โตเกียว ออ โตซาลอน และ “เอ คลาส เกิร์ล” ไทยแลนด์, การแสดงจากสาวข้างบ้านสุดเซ็กซี่ FHM Girl Next Door รวมทั้งโซนแสดงรถยนต์ของกลุ่ม “คาร์คลับ”  ที่มีทั้งกิจกรรมพบปะสังสรรค์ ให้สาระความรู้ของการแต่งรถ รวมถึง ฟู๊ดโซนสไตล์ญี่ปุ่น ที่คัดสรรมาอาหารเลิศรสให้ได้ลิ้มลองในงาน

Auto Salon 2017

งาน “ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ออโต ซาลอน ” ครั้งที่ 5 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-9 กรกฎาคม 2560 ณ ชาเลนเจอร์ 3 เมืองทองธานี วันธรรมดา แสดงงานเวลา12.00 – 21.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ แสดงงานเวลา 11.00-21.30 น.บัตรเข้างานราคา 100 บาท

 

Auto Salon 2017

สอบถามและติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง โทร. 0-2508-8100 ต่อ 8173 หรือ
http://www.bangkokinternationalautosalon.com/Bangkok International Auto Salon 

 

ชมภาพข่าวงาน AUTO SALON 2016

จากระบบ VTEC ของ Honda สร้างหน้าประวัติศาสตร์ความแรงบทใหม่ได้อย่างดีนับตั้งแต่แจ้งเกิด ด้วยการสร้างกระแสนิยมอย่างล้นหลามจากบรรดาขาซิ่ง จนก้าวมาสู่การพัฒนาครั้งใหม่ด้วย “ความฉลาดล้ำ” กับขุมพลัง i-VTEC

i-VTEC

VTEC-E ก้าวแรกแห่งการพัฒนาสู่ i-VTEC

จากกระแสความแรงของเครื่องยนต์เจนเนอเรชั่นแรกก่อนมาสู่ i-VTEC ทำให้เกิดเครื่องยนต์เจนเนอเรชั่นที่ 2 ตามขึ้นมาในชื่อว่า VTEC-E โดยจะเป็นเครื่องยนต์ VTEC-E ที่เน้นในเรื่องของการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้นกว่าเดิม ในขณะที่หลักการทำงานเบื้องต้นก็ยังคงมีความคล้ายกันกับเครื่องยนต์เจนเนอเรชั่นแรก ด้วยการมีลูกเบี้ยว 2 ชุด (แต่ไม่มีลูกเบี้ยวองศาสูง) ทำหน้าที่เปิด-ปิดวาล์วไอดี ซึ่งจะเปิดเฉพาะแค่ 1 ตัวเท่านั้น

ซึ่งข้อดีของ VTEC-E ก็คือ อากาศที่ไหลเข้าทางเดียวจะคลุกเคล้าผสมผสานกับน้ำมันได้ดีขึ้น อีกทั้งการฉีดจ่ายเชื้อเพลิงก็น้อยลง ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เกิดการประหยัดน้ำมันมากขึ้นแล้ว ยังช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานดีขึ้นในรอบต่ำ และทำให้เกิดการประหยัดมากขึ้นด้วยเช่นกัน ส่วนในรอบเครื่องยนต์สูงนั้น ระบบก็จะเปิดวาล์วไอดีให้ทั้ง 2 ตัว ให้อากาศไหลเข้าได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้รถมีประสิทธิภาพมากขึ้นในรอบสูงเช่นกัน

i-VTECการมาถึงของขุมพลัง i-VTEC

จาก VTEC-E ก็เกิดเป็นพัฒนาการล่าสุดในชื่อที่คุ้นหูว่า i-VTEC โดยตัวอักษรย่อ “i” หมายถึง “intelligent” โดยเป็นการรวมข้อดีระหว่าง ความแรงจาก VTEC และการประหยัดน้ำมันจาก VTEC-E ไว้ด้วยกัน เพื่อให้มีทั้งความแรง และประหยัด โดยการเพิ่มระบบ VTC เข้าไปเป็นอีกหนึ่งตัวช่วย

ซึ่งระบบ VTC หรือ Variable Timing Control จะเข้ามาทำหน้าที่ “ควบคุมองศาแคมแชฟท์” ฝั่งไอดี โดยการขยับของเฟืองแคม ซึ่งจะถูกสั่งงานโดยสมองกล ECU เพื่อควบคุมวาล์วไอดีทั้ง 2 ตัว ให้สามารถเปิด–ปิดในได้ช่วงเวลาที่ต้องการ และเหมาะสมกับทุกรอบความเร็วเครื่องยนต์ หรือพูดง่ายๆ ว่าเป็นการอัพเกรดจากเครื่องยนต์ VTEC ที่เน้นความแรง ผสมผสานกับเครื่องยนต์ VTEC-E ให้เป็นเครื่องยนต์ใหม่ที่มีทั้งความแรง และประหยัด ซึ่งสามารถทำงานได้อย่าง “ชาญฉลาด” ขึ้น เพื่อตอบสนองทั้งความแรง และความประหยัดได้อย่างลงตัวนั่นเอง

i-VTECi-VTEC

เป็นที่พูดกัน ทราบกันมานาน และหลายคนก็พยายามทำให้รถยนต์มีน้ำหนักเบาลงได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยังผลให้ได้สมรรถนะที่ดีในการขับขี่ รวมถึงประหยัดน้ำมัน ซึ่งการจะทำให้น้ำหนักของรถเบาลงนั้นไม่ยากเท่าไหร่ เพราะแค่เปลี่ยนวัสดุที่นำมาใช้เช่น Carbon, Aluminum ก็จบ แต่ค่าใช้จ่ายนี่สิ เป็นตัวการสำคัญที่แปรผกผันกับความเบา ซึ่ง BMW ก็มีนวัตกรรม เทคโนโลยีโครงสร้างน้ำหนักเบา BMW Efficient Light Weight หรือการลดน้ำหนักเพื่อให้รถยนต์คันเก่งนั้นมีประสิทธิด้วยราคาที่สมเหตุสมผล

 

BMW Efficient Light Weight

เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการขับขี่และการขับขี่แบบไดนามิกที่ผสมผสานอย่างลงตัว การใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา และแข็งเช่น Carbon รวมถึงอลูมิเนียมในตัวถังเหล็กกล้าความแข็งแรงสูง หรืออัลลอยแมกนีเซียมที่ทันสมัยในเครื่องยนต์ทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงลดลง ในขณะเดียวกัน เวลาขับรถประสิทธิภาพและการเปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้น และ คาร์บอนก็คือพระเอกของนวัตกรรมสำคัญในการลดน้ำหนักของ BMW

bmw_efficientlightweight_carbon_02

Carbon

CFRP หรือคาร์บอนไฟเบอร์เสริมพลาสติก เป็นคอมโพสิตความยืดหยุ่นสูงที่ทำจากเส้นใยคาร์บอน และพลาสติก มีน้ำหนักเบากว่าอลูมิเนียมประมาณ 30% และเบากว่าเหล็ก 50% ซึ่งมีอัตราส่วนความแข็งแรงต่อน้ำหนักที่สูงมากและมีความแข็งมาก

คุณสมบัติของเส้นใยคาร์บอนคือ มีความแข็งแรงสูง ต้านทานแรงดึงสูง น้ำหนักเบา ทนต่อสารเคมีสูง ทนต่ออุณหภูมิสูง และอัตราการขยายตัวต่อความร้อนต่ำ เส้นใยคาร์บอนจึงเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมมากในอุตสาหกรรมการบินและวิศวกรรมอวกาศ การทหาร มอเตอร์สปอร์ต และการแข่งขันกีฬาอื่นๆ แต่เส้นใยคาร์บอนมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเส้นใยชนิดอื่น อาทิ เส้นใยแก้วหรือเส้นใยพลาสติก

ด้วยความร่วมมือกับ SGL Automotive Carbon Fibres กลุ่ม บริษัท BMW สามารถผลิตเส้นใยคาร์บอนได้เอง หลังจากทำงานวิจัย และพัฒนามานานกว่าสิบปีแล้ว ซึ่งตอนนี้สามารถปรับมาใช้กับรถยนต์ได้เป็นครั้งแรก

bmw_efficientlightweight_carbon_03

เริ่มจากปั่น และทอเส้นใยลงบนเสื่อ และแช่ในเรซิ่นชนิดพิเศษเฉพาะ จากนั้นจะถูกนำไปอบให้แข็ง แล้วจึงนำมาประกอบสร้างขึ้นเป็นชิ้นส่วนตัวถัง

bmw_efficientlightweight_carbon_03

มีใช้จริงใน BMW i3 และ BMW i8

ในรถยนต์ BMW i3 และ BMW i8 เป็นยนตรกรรมรุ่นแรกที่นำวัสดุไฮเทคอย่างคาร์บอนมาใช้ในการผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายในปริมาณมาก ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การใช้งานคาร์บอนนั้นเป็นไปโดยจำกัด เนื่องจากต้องผลิตด้วยมือ แต่ปัจจุบัน BMW กรุ๊ป สามารถผลิตคาร์บอนไฟเบอร์ และแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ได้เอง ฉะนั้นจึงสามารถผลิตได้ในปริมาณมากเพื่อจำหน่าย

bmw_efficientlightweight_carbon_06

 

ผลลัพธ์ของการใช้คาร์บอนก็คือ ทำให้ตัวถังมีเสถียรภาพ และความปลอดภัยสูงขึ้นสำหรับผู้ขับขี่ ความแข็งแกร่งของตัวถังที่ได้ ยังช่วยให้ตอบสนองต่อการเร่งได้ดีขึ้น ปราดเปรียวฉับไวดีขึ้น และน้ำหนักที่ลดลงยังช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอีกด้วย

มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ได้ประกาศผลรายงานแนวโน้มการประหยัดน้ำมันของรถยนต์นั่ง หรือ Light Duty Fuel Economy Trends Report*1 จัดทำโดยสำนักงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ US Environmental Protection Agency (EPA) เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา โดยรถยนต์มาสด้าได้คะแนนสูงสุดด้านอัตราประหยัดน้ำมันในประเภทรถยนต์ที่พัฒนาโดยผู้ผลิต สำหรับรถยนต์รุ่นปี 2015*2   ซึ่งนับเป็นปีที่ 4  ติดต่อกันแล้วที่มาสด้าได้รับการจัดลำดับให้เป็นที่รถที่ประหยัดน้ำมันดีที่สุด

 

มาสด้า ( Mazda ) คว้าตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันมากที่สุด

มาสด้า ( Mazda )ได้พัฒนาเทคโนโลยี สกายแอคทีฟ เจนเนอเรชั่นใหม่ อันรวมถึงเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง โครงสร้างตัวถังและช่วงล่าง ด้วยความมุ่งหมายที่จะนำเสนอทั้งความสนุกสนานในการขับขี่ ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสมรรถนะทางความปลอดภัยให้แก่ลูกค้า ความพยายามของมาสด้าในการปรับใช้เทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้ในรถยนต์รุ่นต่างๆ นั้นกลายเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้มาสด้าได้รับการจัดลำดับเป็นรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันที่สุดถึง 4 ปีติดต่อกัน

 

รายงานของ EPA สรุปผลของแนวโน้มการประหยัดน้ำมันในรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกาในแต่ละปี และจัดลำดับอัตราการประหยัดน้ำมันของผู้ผลิตรถยนต์ หรือ Manufacturer Adjusted Fuel Economy โดยรถยนต์ของ มาสด้า ( Mazda ) มีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยที่ 29.6 ไมล์/แกลลอน หรือ 12.6 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งนับว่าเป็นอัตราที่ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอยู่ 0.2 mpg หรือ 0.1 กิโลเมตร/ลิตร

ด้วยความสำเร็จที่เราได้รับ มาสด้าจะยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมต่อไป เพื่อสร้างสายสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้าและยกระดับคุณค่าของแบรนด์

      รายงานแนวโน้มการประหยัดน้ำมัน: เป็นรายงานรายปีที่จัดทำขึ้นโดย EPA โดยสรุปทิศทางอัตราการประหยัดน้ำมันในรถยนต์นั่งและรถกระบะ ตั้งแต่ พ.ศ. 2518  http://www3.epa.gov/otaq/fetrends-complete.htm

       *2   Manufacturer Adjusted Fuel Economy: คืออัตราประหยัดน้ำมันเฉลี่ยของรถยนต์ทั้งหมดที่จำหน่ายโดยผู้ผลิตรถยนต์ในระยะเวลา 1 ปี โดย

     รายงาน EPA จะพิจารณาจากอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยของการขับขี่ในเมืองและนอกเมืองของรถแต่ละรุ่นและในแต่ละmodel year และหาค่าเฉลี่ยโดยคิดตามสัดส่วนของยอดขาย

บริษัท วิน วิน วิน เอเวรี่ติง กรุ๊ป จำกัด (สำนักงานใหญ่)

91 ซ.ลาซาล ถ.ลาซาล แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ10260
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 0-1055-55169-48-4
เบอร์โทรศัพท์ : 086-3765104 (น้ำฝน) 083-0156665 (จ๊ะจ๋า)
Id Line : jajah_iamcar, namfonpiyaa
E Mail : [email protected], [email protected]
Win Win Win Everything Group Co.,Ltd. 91 Soi. Lasalle3, Lasalle Rd., Bangna, Bangna, Bangkok 10260
Tax Id Number: 0105555169484

 เข้าสู่วันที่ 4 หลังจากทานอาหารเช้ากันที่โรงแรม ทุกคนพร้อมเดินทางไปในสถานที่ท่องเที่ยวแลนด์มาร์คแรกของทริปที่ Red land หรือ ผืนดินสีแดง ซึ่งอยู่ห่างจากเขตตัวเมืองไม่ไกล สาเหตุที่เรียกแบบนี้ก็เพราะว่าที่ผืนดินที่ตงชวนบริเวณทิวเขานั้นมีแร่ธาตุมาก จึงทำให้เป็นสีแดงและสวยงามแปลกตาอย่างที่เห็น

ไฮลักซ์ รีโว่ คาราวานทริป บทพิสูจน์จริงระดับโลก กรุงเทพ – อิตาลี (Day 4)

พวกเราต้องขับรถขึ้นไปบนยอดเขาที่จุดชมวิวบนความสูงกว่า 1,900 เมตร ทางขึ้นเป็นลูกรังบ้าง คอนกรีตบ้าง เป็นเลนสวนค่อนข้างแคบ ทางขึ้นมีโค้งตลอดทาง แต่รถก็ผ่านไปได้ด้วยดี เรียกได้ว่าคนขับชิลแต่คนนั่งตื่นเต้น

ระหว่างทางที่ขับผ่าน วิวเริ่มสวยขึ้น รถขับขึ้นตามทางเนินเขา หลายๆ ช่วงของข้างทางเป็นเวิ้งเขา มีการทำไร่ขั้นบันไดลดหลั่นกันไป จนในที่สุดเราก็มาถึงยอด Red land จอดรถเก็บบรรยากาศกันอย่างเต็มที่ เป็นการทำไร่กันบนยอดเขาและลดหลั่นกันลงไป วิวด้านบนจะสวยที่สุด มีทั้งทุ่งสีเขียว เหลืองทอง และสีแดง สลับซ้อนกันไปอย่างสวยงาม

จากนั้นก็ได้เวลาไปต่อ วันนี้หนทางยังอีกไกลเกือบๆ 700 กิโลเมตร แต่เส้นทางขาลงก็โหดเอาเรื่องเพราะแคบ มีทางโค้ง และลาดชันเป็นระยะๆ แต่ด้วยระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน หรือที่เรียกว่า DAC (Downhill Assist Control) ที่ช่วยควบคุมแรงดันเบรกที่ล้ออัตโนมัติ ทำให้ลงเนินชันด้วยความเร็วสม่ำเสมอโดยไม่ต้องแตะเบรก ทำให้การขับขี่ง่ายขึ้นและยังปลอดภัยอีกด้วย เราจึงผ่านมาได้อย่างราบรื่น

หลังจากนั้นไปทานอาหารกลางวัน ร้านนี้มีบ่อเลี้ยงปลาแซลมอนอยู่ด้านหลังด้วย ไม่ต้องสงสัยว่ามื้อนี้จะได้กินแซลมอนจีนสดๆ จากบ่อเลย และพออาหารมาเสิร์ฟก็มีจริงๆ แซลม่อนซีอิ้ว วาซาบิ แป้งขึ้นชื่อของเมือง และอีกหลายอย่าง

จากนั้นก็ผ่านตลาดท้องถิ่นที่ถนนแคบมาก มีรถม้าวิ่ง ชาวบ้านเดิน มีรถสวน จากนั้นเป็นลูกรัง ขรุขระ หลุมบ่อ เยอะมาก ก่อนจะเข้าทางปกติ ซึ่งที่นั่งของHilux Revo ให้ความรู้สึกที่ต่างไปด้วยการใช้เทคโนโลยีของเบาะนั่งในรถยนต์นั่งระดับหรูของโตโยต้า คือไม่ได้กระเด้งมาก และรู้สึกนุ่มกว่า

ไม่นานก็เข้าสู่ถนนทางด่วนสองเลนที่ตัดผ่านขุนเขาอีกครั้ง และหลายครั้งคาราวานต้องเผชิญหน้ากับการขับรถสุดเกรียนของเจ้าถิ่นที่คิดจะหยุดก็หยุด คิดจะเบรกก็เบรก คาราวานจึงต้องเบรกกะทันหัน และหักหลบอย่างฉับพลันอยู่หลายหน จนกระทั่งเข้ามาสู่ทางด่วนเพื่อจะไปเมืองเฉิงตูเสียที

ขับไปตามทางเรื่อยๆ มีแวะเข้าห้องน้ำบ้างเป็นระยะๆ สักพักก็มีรถติดยาวตรงบริเวณปั้มระหว่างทางจะไปเฉิงตู จนพบว่าข้างหน้ามีหินถล่ม ตำรวจเลยกั้นปิดทางเอาไว้ รถติดกันหลายสิบคันผ่านไปกว่าชั่วโมงจึงไปต่อได้

เราวิ่งกันตามเส้นทางผ่านเมืองเต้าถงมาเรื่อยๆ ด้วยเวลาที่ล่าช้ามาพอสมควร คาราวานจึงแวะทานข้าวกันก่อนเพื่อจะได้ไม่หิว เพราะหนทางอีกยาวไกล โชคร้ายยังไม่หมดเพราะเส้นทางที่เราจะไปมีการปิดถนนอีกทำให้ต้องอ้อมไปอีกทาง และใช้เวลานานขึ้นอีก 2 ชั่วโมง จากเดิมจะต้องวิ่ง 200 กม. เป็น 400 กม. กันเลยทีเดียว

หลังจากออกเดินทางต่อได้ไม่นาน ก็เจอฝนและลูกเห็บตกลงมาอย่างหนัก คาราวานจึงต้องลดความเร็วเพื่อความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทางทุกคน เพราะถนนค่อนข้างลื่น แต่ไฮลักซ์ รีโว่ก็ยังเอาอยู่

สุดท้ายด้วยเวลาที่ช้าไปมาก เราจึงต้องเปลี่ยนแผนย้ายไปที่เมืองยีบินแทน ซึ่งเรียกว่าปรับแผนหาโรงแรมกันหน้างานเลย ก่อนที่พรุ่งนี้จะยิงยาวต่อไปที่เฉิงตู แล้วไปนอนพักที่เทียนสุ่ย

วันนี้ถือว่าเป็นวันหฤโหดกันทีเดียวของคาราวานไฮลักซ์ รีโว่ เพราะเจอทั้งถนนขรุขระ ทางแคบ โค้ง ลาดชัน เจออุปสรรคจากภัยธรรมชาติทั้งหินถล่มปิดทาง พายุลูกเห็บ ฝนตก ถนนลื่น ถือว่าไฮลักซ์ รีโว่ได้พิสูจน์สมรรถนะทั้งความแกร่ง หนึบ ทนทานกันไปเลย พรุ่งนี้จะมาอัพเดทกันต่อ

ภาพบรรยากาศ

iamcar_ford_hybird

ฟอร์ดจับมือคอร์นนิ่ง เปิดตัวเทคโนโลยีกระจกหน้ารถแบบไฮบริด กอลิล่ากลาส เป็นรายแรกในอุตสาหกรรมรถยนต์ ประเดิมใช้ในฟอร์ด จีที ซูเปอร์คาร์ ใหม่
 

Continue reading “ฟอร์ดจับมือคอร์นนิ่ง เปิดตัวเทคโนโลยีกระจกหน้ารถแบบไฮบริด”

iamcar_bridgestone_boi

มร.มาซาอากิ สึยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและตัวแทนคณะกรรมการบริหาร บริษัท บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ได้รับเกียรติจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง “ที่ปรึกษาการลงทุนกิตติมศักดิ์” หรือ HIA -Honorary Investment Advisor เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งการแต่งตั้งดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การสนับสนุนแก่บีโอไอ ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางแห่งการลงทุนในเขตเศรษฐกิจทั้งระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และระดับโลก

Continue reading “ประธานกรรมการบริหารบริษัทบริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น ได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุนจากบีโอไอ”