บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำรถยนต์ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด เปิดตัว All-New Mitsubishi X-Force HEV สู่ตลาดประเทศไทยเป็นครั้งแรก รถคอมแพกต์เอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุด

All-New Mitsubishi X-Force HEV

ดีไซน์การออกแบบรูปลักษณ์ภายนอก

ทิศทางใหม่ในการออกแบบยานยนต์ของมิตซูบิชิ “ซิลก์กี แอนด์ โซลิด (Silky & Solid)” ซึ่งถูกนำมาปรับใช้กับ All-New Mitsubishi X-Force HEV ผสานสไตล์ที่โดดเด่นเข้ากับความทรงพลัง สะท้อนผ่านรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวและดึงดูดทุกสายตาทั้งในเมืองและนอกเมืองตามแบบฉบับรถเอสยูวีที่แท้จริง

พื้นผิวที่ดูเรียบ และเงางามของด้านบนตัวรถสอดรับกับสัญลักษณ์ “ทรีไดมอนด์” ที่ด้านหน้า พร้อมเส้นสายที่ดูไดนามิคจากด้านข้างไปถึงด้านท้ายรถ หลังคาแบบลอยตัว (Floating Roof) ให้ความรู้สึกโปร่งและพริ้วไหว

All-New Mitsubishi X-Force HEV

เอกลักษณ์จาก “ไดนามิคชิลด์” ที่มาในเวอร์ชั่นแบบ 3 มิติ และสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับคอนเซ็ปต์การออกแบบของรถรุ่นนี้ กระจังหน้าถูกออกแบบให้ปกป้อง และกลมกลืนไปกับกันชนหน้าซ้าย และขวา ทำให้เกิดมิติของความลึกเสริมสร้างความสปอร์ตให้ด้านหน้าของตัวรถ ดีไซน์ด้านข้างแบบ 3 มิติ พร้อมเส้นสายที่แสดงถึงความโฉบเฉี่ยว และแข็งแกร่ง ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้าย LED สี Smoke สร้างความเป็นไอคอนนิค ด้วยการจัดเรียงเป็นรูปตัวที เสริมให้เห็นถึงความกว้างและความรู้สึกมั่นคงของตัวรถ

All-New Mitsubishi X-Force HEV

ล้ออัลลอยขนาดใหญ่18 นิ้ว ดีไซน์สวยที่คำนึงถึงแอโรไดนามิค ระยะต่ำสุดถึงพื้นหรือ Ground Clearance ที่มีความสูงถึง 183 มิลลิเมตรเสริมด้วยซุ้มล้อที่เลือกใช้วัสดุ และสีที่ตัดกับสีรถทำให้ All-New Mitsubishi X-Force HEV มีบุคลิกของรถเอสยูวีอย่างชัดเจน

All-New Mitsubishi X-Force HEV

อีกสิ่งหนึ่งที่จะมาช่วยทำให้ All-New Mitsubishi X-Force HEV มีความน่าตื่นเต้น และสร้างความน่าสนใจคือสีรถที่มีให้เลือกทั้งแบบทูโทน และโมโนโทน จำนวนถึง 8 สี

ดีไซน์การออกแบบภายใน

ห้องโดยสารที่ประณีตทุกรายละเอียด ตอบโจทย์การใช้งานด้วยการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Horizontal Axis” ทำรถคันนี้มีทัศนวิสัยที่ยอดเยี่ยมในทุกสภาพเส้นทาง

ภายในห้องโดยสารสีทูโทน Mélange – Mocha พร้อมการตกแต่งด้วยผ้าแบบพิเศษกันน้ำ และคราบสิ่งสกปรก มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่จะช่วยสร้างสุนทรียภาพให้คุณตลอดการเดินทาง

All-New Mitsubishi X-Force HEV

ห้องโดยสารขนาดใหญ่ที่สุดในรถระดับเดียวกัน พื้นที่เหนือศีรษะ พื้นที่หัวไหล่ และพื้นที่วางขาที่กว้าง ทำให้สามารถเดินทางได้พร้อมกันถึง 5คน โดยไม่รู้สึกอึดอัด เบาะนั่งตอนหลังสามารถพับปรับแบบ 40:20:40 และปรับเอนได้ถึง 8 ระดับ พร้อมด้วยวัสดุหุ้มเบาะ “Heat Guard” ที่ช่วยสะท้อนความร้อนจากแสงแดด

ยกระดับความสะดวกสบายในทุกประสาทสัมผัส

ไดนามิค ซาวด์ ยามาฮ่า พรีเมียม ซาวด์ ซิสเต็ม (Dynamic Sound Yamaha Premium Sound System) คือ ระบบเสียงคุณภาพสูงที่ถูกติดตั้งไว้ใน All-New Mitsubishi X-Force HEV ระบบเสียงนี้กระจายเสียงผ่านลำโพงทั้งหมด 8 ตัวทวิตเตอร์คู่หน้าที่ถูกติดตั้งบริเวณเสาหลังคา (A-Pillar) ลำโพงวูฟเฟอร์ที่ติดตั้งบริเวณแผงประตูคู่หน้า และลำโพงโคแอกเซียล (Coaxial) แบบ 2 ทางที่ประตูคู่หลังทำให้คุณภาพเสียงที่ได้รับ คมชัดอย่างมีมิติ เฉกเช่นการฟังเครื่องดนตรีแบบแยกชิ้น อีกทั้งยังสามารถเลือกรูปแบบเสียงได้ถึง 4 รูปแบบตามรสนิยม และอารมณ์ในการฟังเพลง เพื่อเพิ่มสุนทรียภาพ และประสบการณ์ขับขี่ที่เพลิดเพลินยิ่งขึ้น

หน้าจอระบบสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 12.3 นิ้ว พร้อม Smartphone-link Display Audio (SDA) มาพร้อมหน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว จอแสดงผลถูกออกแบบให้เป็นแบบมัลติวิดเจ็ต (Multi-widget) จอแบ่งออกเป็น 3 ส่วนเพื่อแสดงข้อมูลต่าง ๆ พร้อมกันบนหน้าจอเดียว อีกทั้งยังสามารถแสดงผลชุดมาตรวัดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมาตรวัดสามช่องในรถระดับตำนานอย่าง Mitsubishi Pajero โดยแสดงข้อมูลสำคัญ เช่น ระดับความสูง มุมเอียง และทิศทาง เพื่อเพิ่มความสนุกในการขับขี่ นอกจากนี้ ยังรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และ Web Link เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ทำให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้บนหน้าจอขนาดใหญ่

All-New Mitsubishi X-Force HEV

ระบบฟอกอากาศ nanoe™ X ที่จะช่วยสร้างอากาศบริสุทธิ์ และยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ลดอากาศเหนื่อยล้า สร้างความสดชื่นให้คุณตลอดการเดินทาง พร้อมไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร (Ambient Light) บริเวณคอนโซลหน้า และแผงประตูด้านหน้า

เทคโนโลยีความปลอดภัยไดมอนด์ เซ้นส์ (Diamond Sense)

เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครอบคลุมแบบ 360 องศา โดยใช้การตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบตัวรถด้วยกล้อง เซนเซอร์ และเรดาห์ที่แม่นยำ ซึ่งจะทำงานและมีสัญญาณเตือนให้ผู้ขับขี่ทราบเมื่อเกิดสภาวะฉุกเฉินหรือต้องระมัดระวัง ได้แก่

All-New Mitsubishi X-Force HEV

  • MAM with Moving Object Detection : กล้องมองภาพรอบคันพร้อมเส้นกะระยะ ทำงานผ่านกล้อง 4 ตำแหน่งแสดงภาพสภาพแวดล้อมรอบตัวรถ พร้อมระบบตรวจจับการเคลื่อนไหว
  • LCDN : ระบบเตือนเมื่อรถด้านหน้าออกตัว หรือเคลื่อนที่ไปด้านหน้า ระบบจะทำการแจ้งเตือนบนหน้าจอแสดงผลแบบLCDกรณีรถหยุดนิ่ง และมีการเคลื่อนตัวของรถคันหน้า
  • BSW with LCA : ระบบเตือนจุดอับสายตา และระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน
  • FCM : ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็วป้องกันความเสี่ยงที่จะชนรถคันหน้า และสบายใจกว่าด้วยการลดความเร็วเพื่อบรรเทาความเสียหายจากการชน
  • ACC : ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติถึงจุดหยุดนิ่งระบบจะสามารถล็อคความเร็วตามที่กำหนด และรักษาความเร็วให้คงที่ตามรถคันหน้า ตลอดจนช่วยเบรกจนถึงความเร็ว 0 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพิ่มความสะดวกสบาย และปลอดภัยยิ่งขึ้นเมื่อต้องขับขี่ทางไกล
  • AHB : ระบบควบคุมไฟสูงโดยอัตโนมัติ สะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น
  • RCTA : ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอดระบบจะส่งสัญญาณเตือน เมื่อพบว่ามีวัตถุเคลื่อนไหวด้านหลังรถ ขณะกำลังถอยรถออกจากช่องจอด

All-New Mitsubishi X-Force HEV

นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยแบบ Passive safety ด้วยการติดตั้งถุงลม 6 ตำแหน่ง มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นของทุกคนในห้องโดยสารอีกด้วย

MITSUBISHI e:MOTION

หัวใจสำคัญของ All-New Mitsubishi X-Force HEV คือ MITSUBISHI e:MOTION ประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับ ซึ่งเป็นการผสาน 3 เทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุดของมิตซูบิชิ  ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดเจนเนอเรชันใหม่ล่าสุด, โหมดการขับขี่  7 รูปแบบ และระบบควบคุมการขับเคลื่อน และสมดุลขณะเข้าโค้ง (AYC) ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดเจนเนอเรชั่นใหม่ได้รับการถ่ายทอด และพัฒนามาจากความสำเร็จของระบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) อันโด่งดังของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส และเป็นการพัฒนาต่อยอดจากรถยนต์ฟูลไฮบริดรุ่นแรกอย่าง Xpander ทำให้มีประสิทธิภาพการส่งกำลังที่ดียิ่งขึ้น ช่วยให้การขับขี่เต็มเปี่ยมด้วยพลัง และนุ่มนวลมากขึ้นในทุกเส้นทาง อีกทั้งยังเพิ่มกลไกตัดการเชื่อมต่อของมอเตอร์ ช่วยลดการสูญเสียพลังงานลงได้มาก ประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้รถมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 24.4 กิโลเมตร/ลิตร* และทำให้ได้ระยะทางในการขับขี่ต่อน้ำมัน 1 ถัง สูงที่สุดในรถยนต์ระดับเดียวกัน

All-New Mitsubishi X-Force HEV

เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้รับประสบการณ์การขับขี่แบบรถไฟฟ้า รถยนต์รุ่นนี้มาพร้อมระบบส่งกำลัง 2-Speed Transaxle โดยการขับเคลื่อนในแบบไฮบริด จะให้ความเงียบ และมีอัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมทั้งในการขับขี่บนไฮเวย์ และในเส้นทางที่เป็นเนินลาดชัน นอกจากนี้ มอเตอร์ไฟฟ้า เจเนอเรเตอร์ และระบบส่งกำลัง ยังได้รับการออกแบบให้ทำงานผสานกันเป็นหนึ่งเดียว ทำให้มีการทำงานที่เงียบลดเสียงรบกวนอย่างมีประสิทธิภาพให้ประสบการณ์การขับขี่เหมือนรถไฟฟ้า

All-New Mitsubishi X-Force HEV

ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุดมีทั้งการขับขี่แบบ EV DRIVE การขับขี่แบบ HYBRID-SERIES, การขับขี่แบบ HYBRID-PARALLEL, การขับขี่แบบ HYBRID–MOTOR DISCONNECTED และการขับขี่แบบ POWER REGENERATIVE โดยระบบจะปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่อัตโนมัติตามสภาพการขับขี่ และปริมาณพลังงานที่เหลืออยู่ในแบตเตอรี่ เพื่อให้ได้ทั้งประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงสูง และการขับขี่ที่ทรงพลัง เร้าใจด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า

All-New Mitsubishi X-Force HEV

  • ขณะออกตัวขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ 100% เงียบ และใช้พลังงานสะอาดปราศจากการใช้เชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซ CO2
  • ขณะเร่งความเร็วหรือขับด้วยความเร็วปานกลางขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยเครื่องยนต์จะทำงานเพื่อสร้างกระแสไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและกำลังในการขับเคลื่อน ซึ่งจะตัดสลับกับ EV DRIVE เมื่อพลังงานในแบตเตอรี่เพียงพอ
  • ขณะขึ้นทางชัน หรือขึ้นเขาเมื่อต้องการพละกำลังในการขึ้นทางชันหรือขึ้นเขา ระบบจะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ในอัตราทด LOW (เช่นเดียวกับเกียร์ต่ำ) เพื่อเพิ่มพละกำลังและประสิทธิภาพการจัดการพลังงานในแบตเตอรี่ให้ดียิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันเครื่องยนต์ยังคงสร้างกระแสไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่อย่างต่อเนื่อง และจะตัดสลับกับ HYBRID-SERIES ตามความเหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนและประหยัดน้ำมัน
  • ขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูงหรือคงที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ในอัตราทด HIGH (เช่นเดียวกับเกียร์สูง) และเมื่อขับที่ความเร็วคงที่จะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เป็นหลัก และตัดภาระการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าออก เพื่อลดภาระในการทำงานของเครื่องยนต์ อีกทั้งเจเนอเรเตอร์ยังช่วยในการขับเคลื่อน ทำให้ประหยัดน้ำมันได้ดียิ่งขึ้นในขณะเดียวกันเครื่องยนต์ยังคงสร้างกระแสไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่อย่างต่อเนื่อง และจะตัดสลับกับ HYBRID-SERIES หรือ EV DRIVE ตามความเหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนและประหยัดพลังงาน
  • ขณะลดความเร็วหรือลงทางชันระบบจะเปลี่ยนพลังงานจากการชะลอความเร็วหรือเบรก เป็นพลังงานไฟฟ้าและนำกระแสไฟฟ้ากลับเข้าสู่แบตเตอรี่

ระบบ HEV นี้ช่วยให้สามารถขับขี่ได้อย่างเงียบ สะอาดแบบรถ EV และยังรองรับการเดินทางระยะไกลโดยไม่ต้องกังวลเรื่องพลังงานแบตเตอรี่หมด

All-New Mitsubishi X-Force HEV

All-New Mitsubishi X-Force HEV มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง และแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษสำหรับรถยนต์ไฮบริด โดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร MIVEC DOHC 16 วาล์ว ซึ่งถูกใช้งานครั้งแรกใน Xpander HEV โดยให้ประสิทธิภาพเชิงความร้อน (Thermal efficiency) ในระดับแนวหน้าของคลาส พร้อมทั้งกำลังขับเคลื่อนที่เพิ่มขึ้นนอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งปั๊มน้ำไฟฟ้าเพื่อลดการสูญเสียพลังงานจากระบบขับเคลื่อนเสริม (Auxiliary Drive Loss) ส่งผลให้ประสิทธิภาพเชิงความร้อนของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นมากกว่า 40% ช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้ดียิ่งขึ้น และส่งเสริมประสิทธิภาพโดยรวมของระบบขับเคลื่อนเมื่อทำงานร่วมกับเจเนอเรเตอร์และมอเตอร์ที่มีกำลังสูงสุด 85กิโลวัตต์ All-New Mitsubishi X-Force HEV จึงสามารถอัตราเร่งที่ราบรื่น ทรงพลัง และตอบสนองฉับไว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ

อีกหนึ่งเทคโนโลยีสำคัญที่ทำให้ Mitsubishi e:MOTION มอบประสบการณ์การขับขี่ที่โดดเด่น คือโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจในทุกสภาพอากาศและสภาพถนน

All-New Mitsubishi X-Force HEV

โดยแบ่งเป็นโหมดการขับขี่แบบรถไฟฟ้า 2 รูปแบบ และโหมดการขับขี่อีก 5 รูปแบบสภาพถนน ผู้ขับขี่สามารถเลือกเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ผ่านสวิตซ์ที่คอนโซลกลาง โดยระบบควบคุมเบรก เครื่องยนต์ มอเตอร์ และพวงมาลัย จะทำงานร่วมกันเพื่อให้การขับขี่ปลอดภัยบนสภาพถนนที่หลากหลายซึ่งเหมาะกับสภาพถนนในประเทศไทย

โหมด EV Priority และโหมด Charge ช่วยให้ผู้ขับขี่เลือกขับขี่ในโหมด EV ตามสถานการณ์ได้

  • EV Priority Mode ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพื่อขับเคลื่อนมอเตอร์โดยไม่ต้องสตาร์ตเครื่องยนต์  โหมดนี้มีความเงียบสูง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงรบกวนเมื่อต้องขับขี่ในบริเวณที่ต้องการความเงียบ
  • Charge Mode ใช้เครื่องยนต์ชาร์จแบตเตอรี่เมื่อพลังงานเหลือน้อยในขณะขับ หรือจอดรอได้ เพื่อให้สามารถใช้โหมด EV ได้นานขึ้นตามต้องการ

All-New Mitsubishi X-Force HEV

5 โหมดการขับขี่อื่นๆ ถูกออกแบบมาเพื่อควบคุมรถตามสภาพถนน ด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหน้าพร้อมเทคโนโลยีควบคุมต่างๆ ได้แก่

  • Active Yaw Control (AYC) : ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง ควบคุมแรงขับ และแรงเบรกของล้อหน้าแต่ละข้างเพื่อเพิ่มการทรงตัวและการควบคุมให้ปลอดภัยและมั่นใจยิ่งขึ้น
  • Traction ControlSystem (TCL) : ระบบป้องกันการลื่นไถล ป้องกันล้อหมุนฟรี
  • Active Stability Control (ASC) : ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว
  • Electric Power Steering : พวงมาลัยไฟฟ้า ปรับน้ำหนักตามความเร็วและสภาพถนน

All-New Mitsubishi X-Force HEV

ทั้ง 5 โหมดการขับขี่ช่วยให้สามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัยในทุกสภาพอากาศและถนน

  • Normal Mode : เหมาะกับการขับขี่ทั่วไปในชีวิตประจำวัน
  • Tarmac Mode : สำหรับถนนลาดยาง เพิ่มความว่องไวและการควบคุมที่แม่นยำบนถนนคดเคี้ยว ให้พละกำลังเช่นเดียวกับ Sport Mode
  • Gravel Mode : สำหรับถนนลูกรังลดอาการลื่นไถลและเพิ่มความมั่นคงบนถนนลูกรัง
  • Mud Mode : สำหรับถนนโคลน ให้การยึดเกาะที่ดีขึ้นแม้ในสภาพถนนที่เป็นโคลนและขรุขระ
  • Wet Mode : สำหรับถนนเปียกลื่นลดการลื่นของยางและเพิ่มเสถียรภาพแม้ในสภาพฝนตกหนัก

จอแสดงผลการขับขี่ LCD ขนาด 8นิ้ว จะแสดงข้อมูลเฉพาะสำหรับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดอย่างชัดเจน เช่น ระดับพลังงานแสดงสถานะ Eco, Power และ Charge สอดคล้องกับการควบคุมคันเร่ง การไหลเวียนของพลังงาน อัตราส่วนการขับขี่ด้วยไฟฟ้า และระดับพลังงานที่เหลือในแบตเตอรี่ และสามารถปรับเปลี่ยนหน้าจอได้ 2 รูปแบบ

All-New Mitsubishi X-Force HEV

All-New Mitsubishi X-Force HEV มีจำหน่าย 3 รุ่นย่อย ได้แก่

  • รุ่น Ignite ราคาเริ่มต้น 899,000 บาท มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาวมุก (White Diamond) สีเงิน (Blade Silver) และสีเทา (Graphite Grey)

  • รุ่น Ultimate ราคาเริ่มต้น 1,039,000 บาท มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาวมุก (White Diamond) หลังคาดำสีเงิน (Blade Silver) สีเทา (Graphite Gray) และสีดำ (Jet Black Mica)

  • รุ่น Ultimate X ราคาเริ่มต้น 1,089,000 บาท มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาวมุก (White Diamond) หลังคาดำสีเทา (Graphite Gray) หลังคาดำสีเหลือง (Energetic Yellow) หลังคาดำ สีแดง (Spirit Red )หลังคาดำ และสีดำ (Jet Black Mica)


ตารางราคารถยนต์ล่าสุด

AUDI | Aston Martin | BMW | Chevrolet | CITROEN |  DFSKFerrari | Honda (ฮอนด้า) |